15 October 24 กรุงเทพธุรกิจ by Kanokkan
16 ตุลาคม ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันอาหารโลก” เพื่อให้ทุกคนเห็นถึงปัญหา “ความอดอยาก” และร่วมมือกันแก้ไข สร้างความรู้ความเข้าใจถึงปัญหาในการจัดการและการกระจายอาหาร รวมถึงระลึกถึงการก่อตั้งขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations หรือ FAO)
รายงานวิกฤตการณ์อาหารโลก ฉบับปี 2567 (Global Report on Food Crises : GRFC 2024) เปิดเผยว่าประชากรเกือบ 282 ล้านคนใน 59 ประเทศและเขตแดน กำลังประสบปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหาร เผชิญกับความหิวโหยเฉียบพลันในระดับที่สูง
ตัวเลขผู้คนได้รับผลกระทบทั่วโลกเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 24 ล้านคน เป็นผลมาจากเหตุการณ์ 1.ภาวะสงคราม-ความขัดแย้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ฉนวนกาซา และสงครามยูเครน-รัสเซีย 2.สภาพภูมิอากาศสุดขั้วที่ทวีความรุนแรง และ 3.ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
เด็กต่ำกว่า 5 ปี กว่า 36 ล้านคน ขาดสารอาหารรุนแรง
ขณะที่ รายงานประจำปีของ Global Network Against Food Crises จัดทำ โดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations: FAO) โครงการอาหารโลก (World Food Program: WFP) และสหภาพยุโรป ได้วิเคราะห์ว่าเด็กและผู้หญิง ถือเป็นด่านแรกที่ต้องเผชิญกับวิกฤตความหิวโหย พบว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จำนวนกว่า 36 ล้านคน ขาดสารอาหารอย่างรุนแรงใน 32 ประเทศ แสดงให้เห็นถึงภาวะทุพโภชนาการที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในปี 2566 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้พลัดถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งและภัยพิบัติ
โดยในปี 2566 พบว่าผู้คนกว่า 705,000 คน ประสบปัญหาความไม่มั่นคงด้านอาหารเฉียบพลันอย่างรุนแรงที่สุด และมีความเสี่ยงต่อความอดอยากในระดับภัยพิบัติ (IPC/CH Phase 5) ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่านับตั้งแต่ปี 2559 และถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่มีการรายงานมา
ไทยผลิตอาหาร แต่มีปัญหาภาวะโภชนาการ
ผศ.ชล บุนนาค อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ผอ.ศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) อธิบายถึงความมั่นคงทางอาหารว่า องค์การอาหารและเกษตรกรรมแห่งสหประชาชาติ (FAO) นิยามความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) แบ่งเป็น 4 ประเด็นหลัก คือ
1.อาหารพอกินหรือไม่
2.เข้าถึงอาหารได้หรือไม่
3.มีอาหารกินแล้วดีต่อสุขภาพหรือไม่
4.ความมีเสถียรภาพว่ามีวิกฤตแล้วยังเข้าถึงอาหารหรือไม่
“อาหารในประเทศมีเพียงแต่อย่างแน่นอน เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตอาหาร แต่เรื่องการเข้าถึงอาหาร สถิติในฐานข้อมูล อย่าง ช่วงโควิด พบว่า คนที่มีความมั่นคงทางอาหารปานกลางหรือรุนแรงเพิ่มสูงขึ้น ประมาณ 7% ของประชากร และมีปัญหาภาวะโภชนาการก็เพิ่มขึ้น เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีมีภาวะแคระแกร็นมีประมาณ 13% เราจะมองแค่ตัวอาหารอย่างเดียวไม่พอ เพราะเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจ และระบบอาหารด้วย”
SDG เป้าหมายที่ 2 ขจัดความหิวโหย หรือ Zero Hunger ของยูเอ็นมีประเด็นที่ครอบคลุมในหลายมิติมากกว่าเพียงแค่เรื่องของอาหาร ความเข้าใจของคนมักคิดว่าประเทศไทยป็นผู้ส่งออกอาหาร น่าจะมีสถานะในเรื่องนี้ที่ดี แต่ความเป็นจริง จากการประเมินโดยหลายแหล่งกลับชี้ให้เห็นตรงกันว่า ระบบอาหาร กลับเป็นประเด็นความท้าทายที่สำคัญในเป้าหมาย SDGs ของประเทศไทย
"ไทย" เร่งฟื้นฟูการเกษตรของประเทศ
FAO มีวัตถุประสงค์ที่จะยกระดับโภชนาการทั่วโลก รวมถึงเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรในทุกระดับ เพิ่มคุณภาพชีวิตของประชากรในชนบท และสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ยังให้ความช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ ในการเปลี่ยนนโยบายทางการเกษตร และช่วยเหลือทุกภูมิภาคจากสถานการณ์ความอดอยาก และผลักดันให้เกิดการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม รวมถึงอำนวยความสะดวกในสภาวะที่เป็นกลาง เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาการผลิตอาหาร
สำหรับประเทศไทยได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกขององค์การ ฯ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2490 และเป็นสมาชิกลำดับที่ 45 จากสมาชิกปัจจุบันทั้งสิ้น 190 ประเทศทั่วโลก นับตั้งแต่ได้เข้าเป็นสมาชิกแล้ว ประเทศไทยได้รับความช่วยเหลือทางด้านการเร่งฟื้นฟูการเกษตรของประเทศ ในระยะแรกมีโครงการที่ประสบความสำเร็จมาก คือ โครงการประมงน้ำจืด ซึ่งทางองค์การฯ ได้ส่งนักวิชาการด้านประมงมาให้คำแนะนำแก่ชาวประมงไทยในการเลี้ยงปลาหมอเทศ และการเพาะพันธุ์ปลาสวาย
ปัจจัยที่ทำให้เกิดวิกฤตอาหารปี 2567
ปัจจัยที่ขับเคลื่อนให้เกิดวิกฤตการณ์ด้านอาหาร ในปี 2567 ได้แก่
- ปัญหาความขัดแย้ง เป็นสาเหตุหลักที่ผลักดันให้ผู้คน 135 ล้านคน ใน 20 ประเทศและเขตแดน เผชิญกับความไม่มั่นคงทางอาหารเฉียบพลัน ขณะที่ซูดาน ประสบกับความเสื่อมถอยครั้งใหญ่ที่สุด เหตุจากความขัดแย้ง โดยมีผู้คนถึง 8.6 ล้านคนเผชิญกับความไม่มั่นคงทางอาหารเฉียบพลันในระดับสูง เมื่อเทียบกับปี 2566
- เหตุการณ์สภาพภูมิอากาศสุดขั้ว เป็นตัวขับเคลื่อนหลักให้ผู้คนกว่า 77 ล้านคน ใน 18 ประเทศและเขตแดน เผชิญกับความไม่มั่นคงทางอาหารเฉียบพลันในระดับสูง เพิ่มขึ้นกว่าในปี 2565 จาก 57 ล้านคน ใน 12 ประเทศและเขตแดน ขณะที่ ปี 2566 โลกเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประชากร ทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรง พายุ ความแห้งแล้ง ไฟป่า โรคและการระบาดศัตรูพืช
- ผลกระทบทางเศรษฐกิจ หรือภาวะเศรษฐกิจตกต่ำส่งผลกระทบให้ผู้คนกว่า 75 ล้านคน ใน 21 ประเทศต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงทางอาหารอย่างเฉียบพลันในระดับสูง เนื่องจากการพึ่งพาอาหารนำเข้าและปัจจัยการผลิตทางการเกษตรในระดับสูง ความท้าทายทางเศรษฐกิจของประเทศที่ยังคงมีอยู่ เช่น ปัญหาค่าเงินอ่อนค่า สินค้ามีราคาสูง และภาวะหนี้สูง
เช็กอาการขาดสารอาหารที่ต้องรู้
ร่างกายขาดสารอาหาร อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น อ่อนเพลีย ผิวหนังมีลักษณะผิดปกติ กระดูกหยุดเจริญเติบโต หรือมีภาวะสมองเสื่อม เป็นต้น ซึ่ง โรคขาดสารอาหาร มักเกิดขึ้นเมื่อร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นไม่เพียงพอ
โดยเฉพาะอาหารหลักอย่างโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน หรือแร่ธาตุต่าง ๆ หากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมทันท่วงที อาจมีอาการร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
15 อาการของโรคขาดสารอาหาร
น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
ผมร่วง
ตัวซีด
ง่วง อ่อนเพลีย
เวียนศีรษะ
มีความอยากอาหารที่ผิดปกติ
มีปัญหาในการย่อยอาหาร ซึ่งอาจทำให้ท้องผูก
ประจำเดือนมาไม่ปกติ
รู้สึกเสียวหรือชาที่ข้อต่อ
ไม่มีสมาธิ วอกแวกง่าย
หดหู่ ซึมเศร้า
มีปัญหาด้านการหายใจ
ใจสั่น
เป็นลมหมดสติ
ผู้ป่วยเด็กอาจเจริญเติบโตช้า หรือมีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์
สาเหตุของโรคขาดสารอาหาร
ปัญหาทางจิตใจ อาจส่งผลต่ออารมณ์และทำให้ความอยากอาหารลดลง
อาการป่วยที่อาจทำให้ความอยากอาหารลดลง เช่น อาเจียน ท้องเสีย เป็นต้น
โรคหรือภาวะที่ส่งผลต่อการดูดซึมและการย่อยอาหารของร่างกาย ทำให้ร่างกายขาดธาตุบางชนิด เช่น โรคมะเร็งลำไส้ โรคเซลิแอค ภาวะจุลินทรีย์ในลำไส้ไม่สมดุล โรคโครห์น หรือโรคลำไส้ใหญ่อักเสบชนิดมีแผล เป็นต้น
การใช้ยาบางชนิด ซึ่งอาจมีผลข้างเคียง เช่น ท้องเสีย หรืออาเจียน เป็นต้น จึงทำให้ผู้ป่วยมีความอยากอาหารลดลง หรือรับประทานอาหารได้น้อยลง
การวินิจฉัยโรคขาดสารอาหาร
เมื่อไปพบแพทย์ แพทย์อาจซักประวัติผู้ป่วย สอบถามเกี่ยวกับอาการป่วย และประเมินภาวะโภชนาการโดยสอบถามเกี่ยวกับอาหารที่รับประทาน และนิสัยการรับประทานอาหาร นอกจากนี้ แพทย์อาจสอบถามด้วยว่าผู้ป่วยมีอาการท้องผูก ท้องเสีย หรือมีเลือดปนในอุจจาระหรือไม่ จากนั้นอาจให้ตรวจเลือดเพื่อหาความผิดปกติของระดับสารเคมีในเลือด และตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ซึ่งช่วยตรวจหาภาวะโลหิตจางด้วยเช่นกัน
การป้องกันโรคขาดสารอาหาร
วิธีที่ดีที่สุดที่สามารถช่วยป้องกันภาวะขาดสารอาหารได้ คือ การรับประทานอาหารให้ได้สัดส่วนและครบถ้วนตามหลักโภชนาการ โดยเน้นอาหารที่มีคุณประโยชน์สูงอย่างผัก ผลไม้ หรือธัญพืชไม่ขัดสี และรับประทานอาหารจำพวกแป้งให้เพียงพอ เช่น ข้าว ขนมปัง มันฝรั่ง เป็นต้น รวมถึงเนื้อสัตว์ เนื้อปลา ไข่ ถั่ว และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ https://www.bangkokbiznews.com/health/well-being/1149041
