“อายิโนะโมะโต๊ะ” ผุดสังคมออนไลน์วัยเก๋าสปีดชิงตลาดสูงวัย

“อายิโนะโมะโต๊ะ” เร่งสปีดธุรกิจอาหารเสริมอะมิโนมอฟ ปั้นคอมมิวนิตี้สูงวัยกวาดฐานลูกค้า พร้อมทุ่มสร้าง 3 ภาพยนตร์โฆษณาปลุกไฟวัยเก๋า หวังกระตุ้นผู้สูงวัยใส่ใจสุขภาพหนุนยอดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

นายวันนเรศวร์ สุขีลักษณ์ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจใหม่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดผู้สูงวัยในไทยมีศักยภาพทั้งด้านจำนวนฐานผู้บริโภคที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และดีมานด์สินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่ตอบโจทย์ด้านการฟื้นฟูสุขภาพกายและจิตใจ รวมถึงเปิดรับแคมเปญ การสื่อสารและการตลาดที่ตอบโจทย์นี้ด้วย

ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันไทยมีผู้สูงอายุ หรือผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่า 13 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 19% ของประชากรทั้งหมด และมีแนวโน้มจะเพิ่มเป็น 20-30% ในปี 2585

ขณะเดียวกัน ในกลุ่มผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปนั้น จำนวน 4 ล้านคน มีความเสี่ยงและ-หรือกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและข้อต่อ ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการเคลื่อนไหวและการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน

จึงไม่เพียงต้องการสินค้าที่ช่วยฟื้นฟูการเคลื่อนไหว แต่ยังต้องการร่วมกิจกรรมที่มีการเชื่อมโยงกับสังคม หรือการพบปะผู้คน เพื่อน ครอบครัว ซึ่งจะช่วยลดความโดดเดี่ยวและความซึมเศร้าในผู้สูงวัยได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตให้ดีขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย

จากแนวโน้มนี้ บริษัทจึงตัดสินใจลอนช์แคมเปญสื่อสารใหม่ พร้อม 2 ไฮไลต์ คือ ภาพยนตร์โฆษณา 3 เรื่องที่เน้นปลุกไฟและความรู้สึกภาคภูมิใจของเหล่าสูงวัย ผ่านการถ่ายทอดทักษะและประสบการณ์ของ 3 นักสร้างสรรค์วัยเก๋า ที่ตอกย้ำว่าชีวิตหลังเกษียณยังคงมีไฟ ไม่หมดแพสชั่น พร้อมปลดปล่อยพลัง และสามารถทำกิจกรรมกับเพื่อนและครอบครัวได้

ประกอบด้วย ลุงเขียว-เจียร แสงแก้ว อายุ 59 ปี นักวาดป้ายหนังจากยะลา ที่กลับมาวาดบิลบอร์ดขนาดใหญ่เพื่อส่งต่อความทรงจำ ลุงมานิตย์-มานิตย์ วรฉัตร อายุ 77 ปี นักพากย์เสียงที่มาทำละครวิทยุ ถ่ายทอดความรักและการดูแลผู้สูงวัย และ ลุงเอ๋ย-วินัย สัตตะรุจาวงษ์ อายุ 57 ปี ผู้กำกับโฆษณาที่กลับมาสร้างหนังโฆษณาอีกครั้งในสไตล์ที่สนุกและแฝงด้วยความหมาย

พร้อมกับเปิด Facebook : Ajinomoto Amino House เป็นออนไลน์คอมมิวนิตี้ถ่ายทอดข้อมูลและแบ่งปันประสบการณ์ที่ตอบโจทย์สังคมสูงอายุ รวมถึงระดมกิจกรรมหลากหลายที่มุ่งส่งเสริมให้ผู้สูงวัยกลับมารู้สึกถึงคุณค่าในตนเอง และสร้างความเชื่อมโยงกับสังคม

ความเคลื่อนไหวของอายิโนะโมะโต๊ะในครั้งนี้ ต่อเนื่องจากการเปิดฉากรุกตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับสูงวัย ด้วยการนำ “อะมิโนมอฟ” ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับผู้สูงวัยเข้ามาจำหน่ายในไทย ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 หวังชิงเม็ดเงินในตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับกลุ่มสูงวัยที่มีมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านบาท หรือ 1 ใน 3 ของตลาดอาหารเสริมทั้งหมด รวมถึงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง 7-10% ตามกระแสสังคมสูงวัย

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/marketing/news-1663093