3 September 24 ประชาชาติธุรกิจ by Kanokkan
“เบทาโกร” เปิดตัว “La Comida” แบรนด์ Charcuterie เนื้อสัตว์พร้อมทานสไตล์ยุโรป ชูจุดเด่นคุณภาพพรีเมี่ยมเหนือระดับ มาพร้อม Flagship Store สาขาแรกที่พาร์ค สีลม ตั้งเป้าหมายขยายสาขากรุงเทพฯและเชียงใหม่ ภูเก็ต 3-5 สาขา ภายในปี 2570
ดร.โอลิเวอร์ ก็อตชัลล์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า จากกระแสการนิยมบริโภคชาร์คูเทอรี และชีสบอร์ด (Cheese Board) ในไทยที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ และผู้ที่ชื่นชอบอาหารสไตล์ยุโรป ประกอบกับผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศเป็นหลัก เบทาโกร ในฐานะบริษัทอาหารครบวงจรชั้นนำของไทย ที่ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ ๆ
จึงได้พัฒนาสินค้าในกลุ่มชาร์คูเทอรี ภายใต้แบรนด์ “La Comida” เพื่อตอกย้ำกลยุทธ์การเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเบทาโกร และตั้งเป้าเป็นผู้นำการผลิตสินค้าชาร์คูเทอรีคุณภาพพรีเมี่ยมเหนือระดับของไทย ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการด้านอาหารที่มองหาสินค้าที่มีคุณภาพสูง โดยไม่ต้องนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ
นอกจากนี้ เบทาโกรยังได้เปิดตัว “La Comida Shop” ซึ่งเป็น Flagship Store สาขาแรก ณ พาร์ค สีลม เพื่อจำหน่ายสินค้าชาร์คูเทอรีชีส และสินค้านำเข้า พร้อมให้บริการลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่ชื่นชอบอาหารสไตล์ยุโรป
อีกทั้งมีผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำแนะนำและบริการชาร์คูเทอรี ฟู้ดเซอร์วิสโซลูชั่น (Food Service Solution) ตั้งแต่การพัฒนาเมนูอาหาร การจัดหาวัตถุดิบ จนถึงการนำส่งผลิตภัณฑ์ถึงลูกค้า ที่สำคัญยังมีแผนที่จะขยายสาขาทั้งในกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ อาทิ เชียงใหม่และภูเก็ต จำนวน 3 - 5 สาขา ภายในปี 2570 รวมถึงการขยายไปในตลาดต่างประเทศในแถบเอเชียอีกด้วย
สำหรับแบรนด์ La Comida ใช้วัตถุดิบหลักจากผลิตภัณฑ์เนื้อหมู S-Pure ที่ผ่านกระบวนการเลี้ยงแบบธรรมชาติ 100% แบรนด์แรกและหนึ่งเดียวของไทยที่ได้รับการรับรอง “การเลี้ยงที่ไม่มียาปฏิชีวนะ (Raised without Antibiotics-RWA)” จาก NSF สหรัฐอเมริกา นำมาผ่านกรรมวิธีผลิตในสไตล์ยุโรปดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นการหมักเกลือและเครื่องเทศ การบ่มและรมควัน หรือการปรุงสุกผ่านความร้อน จนเกิดเป็นสินค้าคุณภาพพรีเมี่ยมที่เหนือระดับ (Ultra-Premium) การันตีความอร่อยด้วย Finest & Authentic Taste โดยผู้เชี่ยวชาญชาวยุโรป โดยผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์พร้อมทานสไตล์ยุโรป แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1) กลุ่ม Dry-Cured Hams มีผลิตภัณฑ์อย่าง “คอปป้า (Coppa)” ผลิตจากเนื้อหมูสันคอ S-Pure หอมกลิ่นกระเทียมพริกไทยดำ, “ฟิเลต์มิยอง (Filet Mignon)” ผลิตจากเนื้อหมูสันใน S-Pure รสชาติกลมกล่อมด้วยเครื่องเทศไทม์ โรสแมรี่ และหอมกลิ่นสโมก และ “โลโม่ เอมบูชาโด (Lomo Embuchado)” ผลิตจากเนื้อหมูส่วนหลัง S-Pure มาพร้อมรสเข้มข้นของปาปริก้าและกระเทียม ให้รสชาติที่จัดจ้าน
2) กลุ่ม Cured Sausages ที่มีซาลามี (Salami) ไส้กรอกเนื้อหมู S-Pure บ่มแห้งสไตล์อิตาเลียน หอมกลิ่นกระเทียมและพริกไทยขาว, โซซิสซง (Saucisson Traditional) รสชาติคลาสสิกตามแบบฉบับฝรั่งเศส ด้วยเครื่องเทศอย่างกระเทียมและพริกไทย, โซซิสซง โรเชฟอร์ต 8 (Saucisson Rochefort 8) ไส้กรอกเนื้อหมู S-Pure บ่มแห้งชนิดหนา รสชาติเข้มข้น มีกลิ่นอายเบียร์ Rochefort 8, โชริโซ (Chorizo) ไส้กรอกเนื้อหมู S-Pure บ่มแห้งเข้มข้น รสปาปริก้า กระเทียม และไวน์แดง สุดท้าย เปปเปอโรนี (Pepperoni)ไส้กรอกเนื้อหมู S-Pure บ่มแห้ง ผสมเนื้อวัว ปรุงด้วยเกลือ พริกไทย และไวน์ขาว
3) กลุ่ม Spreads ประกอบด้วย ปาเต้ (Pate) เนื้อหมู S-Pure ปรุงสุกพร้อมไข่ พริกไทยดำ และริเยตต์ (Rillette) เนื้อหมู S-Pure ปรุงรสด้วยเกลือ สมุนไพร รสชาติต้นตำรับจากฝรั่งเศส
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการด้านอาหาร และลูกค้าที่สนใจผลิตภัณฑ์ชาร์คูเทอรี สามารถเยี่ยมชมและหาซื้อได้ที่ La Comida Shop ซึ่งตั้งอยู่ชั้น B อาคารพาร์ค สีลม
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/economy/news-1643394
