21 August 24 กรุงเทพธุรกิจ by Kanokkan
เทรนด์สุขภาพ ไม่มีผลต่อสายหวาน เพราะผลงานของ "อาฟเตอร์ ยู" โกยยอดขาย และกำไรสุทธิโดดเด่น ทั้งไตรมาส 2 สะท้อนผลบวกครึ่งปียังดี ครึ่งปีหลัง ลุยเปิดสาขาเพิ่มทั้งใน และต่างประเทศ เสิร์ฟ "ขนมปังเนยโสด" ผ่านเซเว่นอีเลฟเว่น เจาะลูกค้าทั่วไทย
หากสำรวจผลประกอบการธุรกิจร้านอาหารในไตรมาส 2 จะเห็นว่าแบรนด์ใหญ่บางรายเผชิญยอดขายที่ “หดตัวลง” เนื่องจากเผชิญภาวะเศรษฐกิจ และ “กำลังซื้อของผู้บริโภค” ที่ชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็น “เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป” เบอร์ 1 ธุรกิจหม้อร้อนหรือสุกี้ของเมืองไทย อีกรายคือ “เอส แอนด์ พี ซินดิเคท” รายได้ไตรมาส 2 ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นต้น
ทว่า ไม่ใช่กับสายขนมหวาน โดยเฉพาะกับ “อาฟเตอร์ ยู” ที่มีบรรดาแม่ทัพนายกอง เจ้าของเป็น “เศรษฐีอายุน้อยพันล้าน” อย่าง “กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ” และ “แม่ทัพ ต.สุวรรณ” ผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับที่ 1 และ 2 เป็นต้น
ดูผลประกอบการบริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด(มหาชน) ไตรมาส 2 รายได้จากการขาย 376 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 73 ล้านบาท โตแรงถึง 70% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ผลงานครึ่งปีแรก 2567 สร้างรายได้จากการขาย 716 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ “กำไรสุทธิ” 127 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อนแรงสอดคล้องกันที่ 65% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
กลยุทธ์ และปัจจัยแห่งการเติบโตของ “ขนมหวานพันล้าน” เกิดจากยอดขายของสาขาเดิมหรือSame store เติบโต รวมถึงจำนวนสาขาร้านอาฟเตอร์ ยูที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนต่อหน่วยลดลงจากการประหยัดจากขนาดหรือ Economy of scale ส่วน “กำไร” ที่อู้ฟู่โตดี เพราะรายได้โต และความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
ที่ผ่านมา อาฟเตอร์ ยู ยังเดินหน้าเปิดตัว “เมนูใหม่” ทั้งเอแคลร์ สังขยาใบเตย เบบี้ เอแคลร์ รสเมล่อน ที่คอลแลป(X)กับเอแคลร์ จือปาก ยังมี “คากิโกริข้าวเหนียวทุเรียน” ขาย 14 สาขา “คากิโกริมะดันพริกเกลือราดซอสกะปิหวาน” เสิร์ฟลูกค้า เป็นต้น
อีกไฮไลต์คือ การเปิดร้านกาแฟสเปเชียลตีแบรนด์ “Someday in Coenhagen” สไตล์เดนมาร์ก บนทำเลถนนเชื้อเพลิง เขตสาทร และเป็นร้านกาแฟสเปเชียลตีสาขา 2 ด้วย บริษัทยังมีการคอลแลปกับแบรนด์ไอศกรีมดัง “เนสท์เล่ เอ็กซ์ตรีม” เปิดตัว “ไอศกรีม ชิบูย่า ฮันนี่โทสต์” ขายในร้านสะดวกซื้อ
มองภาพใหญ่ธุรกิจร้านเครือข่ายบริการร้านอาหารหรือเชนปี 2566-69 คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 8.9% หรือมีมูลค่าแตะ 4.124 แสนล้านบาท ในปี 2569 ขณะที่ปี 2566 มูลค่าอยู่ที่ 3.193 แสนล้านบาท ส่วนปี 2567 คาดการณ์มูลค่า 3.509 แสนล้านบาท
ทิศทางตลาดเชนธุรกิจร้านอาหารยังเป็น “ขาขึ้น” ทำให้อาฟเตอร์ ยู ยังเดินหมากรบเชิงรุก โดยครึ่งปีหลังจะเห็นการเปิดร้านแบรนด์ต่างๆ ในเครือเต็มสูบ เรือธงอย่าง “อาฟเตอร์ ยู” จะมีร้านใหม่เปิดเพิ่มรวม 6-8 สาขา เน้นทำเลทองที่เป็น “ศูนย์กลาง” ของนักท่องเที่ยว เพราะเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายสำคัญ ซึ่งไตรมาส 2 ต่างชาติมารับประทานขนมหวานถึง 34.1% เพิ่มจากช่วงเดียวกันปีก่อนมีสัดส่วน 26.1% และโฟกัสย่านที่พักอาศัยเจาะคนมีกำลังซื้อ มีลูกค้าจำนวนมาก จากปัจจุบันอาฟเตอร์ ยูมีร้านให้บริการลูกค้า 61 สาขา
ส่วนแบรนด์ “ลูกก๊อ” ตามแผนจะมีร้านใหม่ 5 สาขา และร้านกาแฟ “มิกก้า” ซึ่งเน้นเปิดภายใตัโมเดลแฟรนไชส์ บริษัทยืนยันว่าธุรกิจยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ในประเทศไม่เพียงมีหน้าร้านให้ลูกค้ามานั่งรับประทานขนมหวาน แต่อาฟเตอร์ ยู ยังเสิร์ฟความอร่อยเอาใจสายหวาน ผ่านร้านสะดวกซื้อด้วย ซึ่งนำร่องสินค้าแรก “ขนมปังเนยโสด” ไปยัง 14,000 สาขาของเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการรวมกันมากกว่า 11 ล้านคนต่อวัน เพิ่มโอกาสขายได้ไม่มากก็น้อย
ด้านแผนบุกต่างประเทศ อาฟเตอร์ ยูเล็งเปิดร้านที่ฮ่องกง รวม 2 สาขา ที่เหล่ย์-ต๊ง-ก๊าย(Lee Tung Avenue) และสาขาแอร์ไซด์(Airside) รวมถึงหาโอกาสเติบโตในต่างแดนเพิ่ม และหนึ่งในหมุดหมายสำคัญจะเห็นการบุกตลาดอาเซียนกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เวียดนาม และเมียนมาหรือซีแอลเอ็มวี(CLMV) ประเทศแรกจะเห็นคือ “กรุงพนมเปญ กัมพูชา” เดือนกันยายน 2567
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1140593
