13 August 24 ประชาชาติธุรกิจ by Kanokkan
UNCLE BEN ผู้นำเข้าผลไม้สดเกรดพรีเมี่ยม จับมือแอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส ผู้ผลิตตู้ Vending Machine เปิดตัว “UNCLE BEN Premium Fruit” ตู้ปั่นน้ำผลไม้สมูทตี้อัตโนมัติเจ้าแรกในไทย พร้อมชู Online Ordering จัดส่งกระเช้าผลไม้ภายใน 3 ชั่วโมง กางแผนขายแฟรนไชส์ตู้ละ 6.5 แสนบาท ตั้งเป้า 5 สาขาภายในปี 2024 และขยายเป็น 13 สาขาในปี 2025 ประเดิมสาขาแรกที่สยามดิสคัฟเวอรี่ โซน Coworking Space
นายเบญจภณ วิเศษสินธพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเมี่ยมฟรุ๊ตคอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าผลไม้สดเกรดพรีเมี่ยมแบรนด์ UNCLE BEN เปิดเผยว่า ปี 2567 บริษัทมีแผนต่อยอดการเติบโตของธุรกิจ ด้วยการร่วมมือกับบริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตตู้ Vending Machine และพัฒนาระบบ Smart Vending Machine and AI Retail Vending Machine ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและร้านค้าอัจฉริยะแบบครบวงจร เปิดตัว “UNCLE BEN Premium Fruit”ตู้ปั่นน้ำผลไม้สมูทตี้อัตโนมัติเจ้าแรกในประเทศ
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ ๆ นอกเหนือจากช่องทางออนไลน์ที่มีอยู่ และต่อยอดธุรกิจขายกระเช้าผลไม้ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ทำมานานกว่า 8 ปี
โดยการหันมาทำธุรกิจในรูปแบบตู้ Vending Machine ในครั้งนี้ เนื่องจากมีข้อได้เปรียบหลายด้านเมื่อเทียบกับการเปิดสาขาปกติ โดยเฉพาะการมีแนวโน้มถึงจุดคุ้มทุนเร็วกว่า เนื่องจากการลงทุนขั้นต้นและค่าใช้จ่ายระยะยาวต่ำกว่า สะท้อนจากก่อนหน้านี้ บริษัททดลองเปิดหน้าร้านบนสถานีรถไฟฟ้า BTS พบว่าต้องใช้เม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท และมีต้นทุนในด้านต่าง ๆ สูง ไม่ว่าจะเป็น ค่าเช่าพื้นที่ ค่าแรงพนักงาน ฯลฯ ซึ่งอาจจะทำให้คุ้มทุนช้า
ด้วยเหตุนี้จึงเลือกทำโมเดลตู้สมูทตี้ปั่นผลไม้อัตโนมัติ เพราะใช้เงินลงทุนต่ำ ไม่มีค่าพนักงาน รวมถึงค่าเช่าพื้นที่ถูกกว่า และมีความเสี่ยงต่ำกว่าการเปิดหน้าร้าน สามารถขยายสาขาได้ง่าย รวมถึงยังมีความคล่องตัวในการปรับแผน หากวิเคราะห์พื้นที่ไม่ดี หรือยอดขายไม่ดี สามารถย้ายที่ขายใหม่ได้ง่าย
“ขณะเดียวกันพบว่า ตู้จำหน่ายน้ำผลไม้ปั่นอัตโนมัติยังไม่มีใครทำ และลูกค้าเองก็มีความต้องการที่จะทานผลไม้นอกแบบปั่นเยอะขึ้น ซึ่งเราเองก็มีผลไม้นำเข้าที่มีอยู่ในมืออยู่แล้ว บวกกับ Trend Healthy ที่กำลังมา เป็นสิ่งที่ท้าทาย จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ตัดสินใจทำตู้สมูทตี้ปั่นผลไม้ 100% ขึ้นมา เพื่อหวังสร้างความแข็งแรงในการแข่งขันกับตลาด”
นายเบญจภณกล่าวต่อไปว่า นอกจากเป็นช่องทางจำหน่ายของสินค้าใหม่อย่างน้ำผลไม้สมูทตี้ ตู้เวนดิ้งนี้ยังเป็นเครื่องมือแก้ Pain Point ของธุรกิจกระเช้าผลไม้ที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทด้วย โดยการเพิ่มระบบ Online Ordering ในการสั่งกระเช้าผลไม้เข้าไปในตู้ปั่นน้ำผลไม้อัตโนมัติ โดยสามารถสั่งซื้อผ่านตู้และจัดส่งภายใน 3 ชั่วโมง ซึ่งจะแก้ Pain Point อย่าง Shelf Life ของผลไม้สดที่ค่อนข้างสั้นได้ พร้อมกับตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการทานผลไม้นำเข้าแบบสด ๆ
โดยนอกจากศูนย์การค้าหรือโคเวิร์กกิ้งสเปซแล้ว ยังสามารถนำตู้ UNCLE BEN Premium Fruit ไปตั้งในโรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อรองรับความต้องการซื้อกระเช้าผลไม้สำหรับเยี่ยมไข้ได้อีกด้วย
“เดิมทีเรามองว่าถ้าคนที่เข้ามาซื้อน้ำปั่นของเราถูกใจว่าน้ำปั่นอร่อย ก็อาจจะอยากซื้อกระเช้าผลไม้เราเพิ่มด้วย เพราะเขาต้องมั่นใจว่าสินค้าเราดี ก็เลยเพิ่มฟังก์ชั่นตรงนี้เข้าไป โดยให้สามารถสั่งสินค้าผ่าน Online Ordering หน้าตู้ และจะมีเมสเซนเจอร์วิ่งส่งให้ ทำให้ลูกค้าได้รับสินค้าสดใหม่ ส่วนบริษัทก็สามารถบริหารซัพพลายได้ง่าย เพราะมี Demand เท่าไหร่ก็บริหาร Supply เท่านั้น สามารถลด Waste ที่เกิดขึ้นได้”
สำหรับวิธีการเก็บรักษาคุณภาพของผลไม้ภายในตู้ บริษัทได้ซีลและเก็บในอุณหภูมิ -30 องศา เพื่อควบคุมไม่ให้ผลไม้คายน้ำ ซึ่งจะสามารถรักษาความสดใหม่และรสชาติที่ดีเอาไว้ได้ พอบรรจุสินค้าเข้าแก้วแล้วเอามาเก็บไว้ในตู้เวนดิ้งที่อุณหภูมิที่ -18 องศา ซึ่งจะสัมพันธ์กับจุดเด่นของตู้ที่สามารถทำสมูทตี้ออกมาโดยไม่ใช้น้ำหรือน้ำแข็งผสม แต่เป็นความเย็นและเกล็ดน้ำแข็งจากการแช่แข็งเนื้อผลไม้
ทั้งนี้ นอกจากรูปแบบการขายแบบใหม่แล้ว บริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจด้วยการเปิดให้นักลงทุนสามารถเข้ามาลงทุนในแฟรนไชส์ตู้เวนดิ้งสมูทตี้ผลไม้ในราคาตู้ละ 650,000 บาท โดยตั้งเป้า 5 สาขาภายในปี 2024 และขยายเป็น 13 สาขาในปี 2025 โดยสาขาแรกของ UNCLE BEN Premium Fruit จะตั้งอยู่ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ โซน Coworking Space
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/marketing/news-1624496
