5 January 24 ประชาชาติธุรกิจ by Kanokkan
เปิดวาระลับ นบข. ไฟเขียวจีทูจีข้าว อินโดนีเซีย 1 ล้านตัน ขายผ่านเอกชน 1 ล้านตัน ตามสัญญานายกเศรษฐา เตรียมชง ครม. สัปดาห์หน้า พร้อมยืดสัญญาส่งมอบ จีทูจี คอฟโก ยุคอดีตนายกประยุทธ์ 2.8 แสนตันสุดท้าย ถึงสิ้นปี 2567
แหล่งคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เผยกับว่า วันนี้ (4 ม.ค. 2567) ที่ประชุม นบข.ที่ทีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน พิจารณาวาระลับ เรื่องการทำสัญญาขายข้าว แบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (GtoG) ให้กับรัฐบาลอินโดนีเซีย ตามที่ประธานาธิบดีอินโดนีเซียได้เจรจาขอซื้อข้าวจากนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เมื่อปลายปี 2566 ปริมาณ 2 ล้านตัน โดยเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่าจะแบ่งเป็นการขายแบบ GtoG ปริมาณ 1 ล้านตัน และจากภาคเอกชนอีก 1 ล้านตัน
โดยหลังจากนี้จะเสนอผลสรุปต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เพื่อให้กรมการค้าต่างประเทศ เดินทางไปเจรจากับบลูล็อก หน่วยงานรัฐวิสาหกิจอินโดนีเซียภายในเดือนนี้
“ชนิดข้าวคาดว่าจะเป็นข้าวขาว ส่วนราคาขายจะต้องมีการเจรจาเป็นล็อตต่อล็อต เหตุที่ต้องเร่งรัดในการพิจารณา เพราะทางอินโดนีเซียได้มีการติดต่อซื้อผ่านนายกรัฐมนตรีและได้ติดตามความคืบหน้ามาหลายครั้งแล้ว”
พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้มีมติ ขยายระยะเวลาการส่งมอบข้าวภายใต้สัญญาซื้อขายข้าว แบบ G TO G ให้กับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจจีน COFCO ของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน อีก 2.8 แสนตัน แต่ภายหลังรัฐบาลจีนให้เหตุผลว่าจีนมีสต๊อกข้าวเหลือค้างอยู่ในประเทศเป็นจำนวนมากจึงขอชะลอการส่งมอบไว้ก่อน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เห็นว่าควรยืดเวลาถึงภายในสิ้นปี 2567
สำหรับข้าวจำนวนนี้เป็นสัญญาที่ค้างรับมอบล็อตที่ 2 จากสมัยรัฐบาลประยุทธ์จันทร์โอชา ซึ่งเดิมได้ทำสัญญาไว้ 2 ล็อต ล็อตละ 1 ล้านตัน ส่งมอบครบแล้วลอตแรก 1 ล้านตันยังเหลือลอตที่ที่ 2 ที่ส่งไป 7.2 แสนตัน ขอขยายเวลาประมาณ 5-6 ปีมีแล้ว โดยการขายข้าว GtoG ที่ตกลงเป็นชนิดข้าวขาวแต่จะมีการเจรจาราคาในการส่งมอบเป็นล็อตต่อล็อต
พร้อมกันนี้ที่ประชุม นบข.ได้พิจารณารายงานสถานการณ์การผลิตและการตลาดข้าว ตามที่ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เสนอรายงานสถานการณ์การผลิตข้าวโลก ปีการผลิต 2566/2567 โดยคาดว่าผลผลิตข้าวโลกจะมีประมาณ 518.07 ล้านตัน เพิ่มขึ้น1% จากปีการผลิต 2565/66 ที่มีปริมาณ 512.98 ล้านตัน โดยผลผลิตข้าวในปากีสถานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติเหมาะสมแก่การเพาะปลูก
ส่วนการบริโภคข้าวโลก ปีการผลิต 2566/67 คาดว่าจะมีประมาณ 525.05 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อน 2565/66 ที่มีปริมาณ 520.41 ล้านตัน โดยการบริโภคข้าวในอินเดีย และฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในขณะที่การบริโภคข้าวในประเทศอื่นค่อนข้างคงที่
ส่วนการค้าข้าวโลก ปี 2566/67 คาดว่าจะมีประมาณ 52.14 ล้านตัน ลดลง 0.27 ล้านตัน จากปี 2565/66 ที่มีปริมาณ 52.41 ล้านตัน เนื่องจากประเทศผู้ส่งออก ได้แก่ อินเดีย และเวียดนาม มีแนวโน้มส่งออกลดลง
สต๊อกข้าวโลก ปลายปี 2566/67 คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 167.76 ล้านตัน ลดลง 6.98 ล้านตัน จากปี 2565/66 ที่มีปริมาณ 174.74 ล้านตัน โดยจีนมีสต๊อกข้าวมากที่สุด ปริมาณ 104.50 ล้านตัน รองลงมา คือ อินเดีย 32.50 ล้านตัน อินโดนีเซีย 3.70 ล้านตัน ฟิลิปปินส์ 3.48 ล้านตัน และไทย 2.64 ล้านตัน
สำหรับสถานการณ์ข้าวไทย ผลผลิตข้าวนาปี 2566/67 ได้เก็บเกี่ยวแล้ว 98% เหลืออีก 2% สำหรับข้าวหอมมะลิ ส่วนข้าวเหนียวในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเก็บเกี่ยวหมดแล้ว เมื่อเปรียบเทียบราคาข้าวไทย โดยภาพรวมข้าวทุกชนิดราคาสูงกว่าปีที่แล้ว แต่ในขณะนี้ราคาข้าวเปลือกทุกชนิดมีราคาอยู่ในระดับทรงตัว เนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่ โรงสีและคู่ค้าชะลอการซื้อขาย
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/economy/news-1472935
