4 January 24 กรุงเทพธุรกิจ by Kanokkan
ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่ม “กระทิงแดง เรดบูล” ลุยลงทุนในจีน “หมื่นล้านบาท” สร้างฐานผลิตในเนปาล หนุนการเติบโต ต่อยอดอาณาจักรยิ่งใหญ่ ส่วนในประเทศมองโมเมนตัมกำลังซื้อผู้บริโภคฟื้น ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังขยายตัว สานเป้าหมาย “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า” ตอบโจทย์ผู้บริโภค
นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจทีซีพี(TCP) เปิดเผยว่า แนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจของกลุ่มธุรกิจ TCP ในปี 2567 ยังคงเดินตามเป้าหมายที่วางไว้คือการ “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า” โดยมี 3 กลยุทธ์หลักผลักดันสู่การเติบโต ประกอบด้วย 1.การปลุกพลังแบรนด์สินค้า 2.ปลุกพลังธุรกิจเติบโต และ 3.ปลุกพลังห่วงใหญ่สิ่งแวดล้อม เพื่อสานภารกิจสู่การเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืนพร้อมกับการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้สังคมและสิ่งแวดล้อม ในฐานทัพธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ ในการดำเนินธุรกิจบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยหมุดหมายต่างแดน มีจีนเป็นตลาดหลักที่มีแนวโน้มการเติบโตของสินค้าสูง รองลงมาคือตลาดประเทศมาเลเซีย และเวียดนาม ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์การทำตลาดปี 2567 การออกสินค้าใหม่เสริมแกร่งยังมีต่อเนื่อง
รายงานข่าวจากกลุ่มธุรกิจ TCP ได้ผนึกกับซาลาส เบเวอร์เรจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจเคทาน (Khetan Group) เปิดสายการผลิตโรงงานแห่งแรกในอมราปุรี ประเทศเนปาล เพื่อผลิตเครื่องดื่มให้พลังงาน “เรดบูล โกลด์” บรรจุกระป๋องขนาด 250 มิลลิลิตร(มล.) และเนปาล ถือเป็นประเทศที่ 4 ในโลกที่ได้ผลิตเครื่องดื่มเรดบูล โกลด์ บรรจุกระป๋องด้วย จากเดิมเรดบูลป้อนสินค้าเข้าไปทำตลาดที่ประเทศเนปาลตั้งแต่ปี 2553
นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนใหญ่ราว 2,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 10,000 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานฐานผลิตเรดบูลแห่งที่ 2 ในประเทศจีน ที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีเน่ยเจียง บนเนื้อที่ 164 ไร่หรือ 400 mu และมีกำลังการผลิตเรดบูล 1,440 ล้านกระป๋องต่อปี การทำตลาดในจีนยังครบรอบ 30 ปีด้วย
ขณะที่แนวโน้มตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานปี 2567 บริษัทยังมองการขยายตัวในทิศทางเป็นบวก จากปัจจัยผู้บริโภคที่จะออกมาทำกิจกรรม ปลดปล่อยไลฟ์สไตล์นอกบ้าน ทำให้มีการใช้พลังงานระหว่างวันในการทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงมองโอกาสสินค้าเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหรือฟังก์ชันนอลดริ้งค์หมวดวิตามินต่างๆ ที่บริษัทมีแบรนด์ไฮ่!XDHC ทำตลาด ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายรับเทรนด์การมองหาสินค้าดูแลสุขภาพ มีคุณภาพดี ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหลังเผชิญโรคโควิด-19
“ปี 2567 คาดว่าตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานน่าจะเป็นตลาดที่น่าเติบโตไม่น้อย บริษัทจึงเตรียมแผนการตลาดไว้เต็มที่สำหรับแบรนด์กระทิงแดง เรด บูล(Red Bull) และไฮ่!XDHC เป็นต้น”
ด้านภาพรวมกำลังซื้อผู้บริโภคปี 2567 บริษัทยังคาดการณ์ฟื้นตัวขึ้นเต็มรูปแบบ รวมถึงการธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม สถานบันเทิง ผับ บาร์ ฯ การขยายตัวของเมืองและร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ที่จะส่งผลให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าและบริการง่ายขึ้น บวกกับสภาพอากาศที่ร้อน จะเปฌนแรงส่งให้ตลาดเครื่องดื่มหมวดต่างๆอย่างดี
นอกจากนี้ ยังมีแรงส่งจากเศรษฐกิจไทยหรือจีดีพี ที่หลายหน่วยงานกลางคาดการณ์ขยายตัวประมาณ 3% ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นไปได้ เนื่องจากมีปัจจัยบวกหลายประการ เช่น การลงทุนของภาครัฐ การกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ การส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัว รวมถึงการขับเคลื่อนธุรกิจของภาคเอกชน ที่หนุนการฟื้นตัวของจีดีพี
“มีความเห็นว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคในปีหน้าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากการฟื้นตัวของภาคธุรกิจต่างๆ รวมถึงการลงทุนของภาครัฐ การบริโภคภายในประเทศ การส่งออก และเครื่องยนต์จากภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังในปี 2567 คือปัญหาทางด้านภูมิรัฐศาสตร์โลก ปัญหาด้านความยั่งยืน โลกเดือด รวมถึงปัญหาด้านห่วงโซ่การผลิตหรือซัพพลายเชน ที่อาจกระทบไทยได้”
ทั้งนี้ จากความไม่แน่นอนต่างๆ โดยเฉพาะภูมิรัฐศาสตร์โลก สงครามที่ยืดเยื้อ ปัญหาโลกเดือด ทำให้ทุกคนจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในอนาคต ซึ่งคัมภีร์รอดมองว่าการมีความยืดหยุ่น หรือ resilience สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์
“ทุกคนต้องเตรียมพร้อมกับอนาคตอยู่เสมอ และมองว่า resilience ต้องอยู่ในใจเสมอ คำนี้ใช้ได้ทุกสถานการณ์ เพราะคือทักษะแห่งความยืดหยุ่น เมื่อมีติดตัวไว้ย่อมเป็นข้อดี หากถึงวันที่เราล้ม เราจะลุกได้เร็ว สามารถมองปัญหาแปรเป็นโอกาส พยายามหาทางแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ และนำมาพัฒนาตัวเอง ให้เป็นคนที่เก่งและแกร่งขึ้นได้”
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1106601
