4 January 24 ประชาชาติธุรกิจ by Kanokkan
ลดภาษีไวน์อิมพอร์ต ทำผู้ประกอบการจุกอก ชะลอการนำเข้าลอตใหม่ รอกฎหมายมีผลบังคับใช้ เร่งบริหารจัดการสต๊อก ด้านผู้ดื่มเฮคาดอัตราภาษีใหม่ทำราคาลดขวดละ 100-200 บาท หวั่นแห่นำเข้ามากกระทบผู้ประกอบการไวน์ไทย
หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2567 มีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์การเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวและกระตุ้นเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทย
โดยมีการปรับปรุงโครงสร้างและอัตราภาษีสุราเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยสรรพสามิตได้มีการปรับปรุงอัตราภาษีสินค้าสุราแช่ และภาษีสุราแช่พื้นบ้าน อาทิ อุ กระแช่ สาโท ขณะที่สุราแช่ที่มีสุรากลั่นผสม อาทิ โซจู ตั้งเป็นพิกัดใหม่แยกจากสุราแช่ รวมถึงอัตราภาษีไวน์และไวน์ผลไม้ โดยยกเลิกการจัดเก็บภาษีจากการแบ่งชั้นของราคา และกำหนดให้มีการจัดเก็บภาษีเป็นอัตราเดียว เพื่อสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
ขณะเดียวกันก็มีการปรับปรุงอัตราภาษีสถานบริการ ซึ่งประกอบกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ มีกำหนดระยะเวลาประมาณ 1 ปี หรือสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัทผู้นำเข้าและจำหน่ายไวน์หลายราย ต่างแสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวว่า มติ ครม. ดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้ประกอบการไวน์ที่มีไวน์นำเข้าอยู่ในสต๊อก หรือผู้ที่เพิ่งจะอิมพอร์ตเข้ามาจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากสินค้าดังกล่าวได้เสียภาษีไปแล้วและสินค้าที่มีอยู่ในตลาดจะราคาสูงเมื่อเทียบกับไวน์ลอตใหม่ที่นำเข้าตามมติ ครม. เพราะเสียภาษีไปแล้วและเสียในอัตราสูงกว่า
ผลกระทบที่เกิดขึ้นคงต้องรอจนกว่าสต๊อกที่อยู่ในตลาดค่อย ๆ ทยอยขายออกไปจนใกล้จะหมดหรือหมดลง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3-6 เดือน และทางออกของผู้ประกอบการอย่างหนึ่งก็คือ การอิมพอร์ตเข้าใหม่ เพื่อเอามาถัวเฉลี่ยราคากับไวน์ในสต๊อกเดิม เพื่อไม่ให้เอเย่นต์หรือผู้แทนจำหน่ายได้รับผลกระทบ
ขณะที่แหล่งข่าวจากวงการไวน์ กล่าวว่า จากการคำนวณจากอัตราภาษีไวน์ที่ปรับลดลงดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าไวน์ที่อิมพอร์ตเข้ามาใหม่ จะลดราคาลงขวดละประมาณ 100-200 บาท (ขึ้นอยู่กับค่าเงินและอัตราแลกเปลี่ยน)
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ ครม.มีมติออกมา ตอนนี้หลาย ๆ ค่ายต่างชะลอการนำเข้าไวน์ลอตใหม่ และรอให้กฎหมายมีผลบังคับใช้หรือประกาศในราชกิจจานุเบกษาก่อน
“อีกด้านหนึ่ง เมื่อภาษีไวน์ถูกลงก็อาจจะมีผู้ประกอบการที่นำเข้ามาทำตลาดมากขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการไวน์ไทยหรือผู้ประกอบการที่ได้มีการลงทุนตั้งแต่ปลูก ผลิต และจำหน่าย”
มติ ครม. ดังกล่าว จะส่งผลกระทบกับ ไวน์ ที่เป็น คอมเมอร์เชียล ไวน์ หรือไวน์เชิงพาณิชย์ มากกว่า ไวน์ที่เป็น วินเทจ ไวน์
ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/marketing/news-1471704
ภาพจาก : Canva
