A comprehensive directory of food manufacturers, distributors and suppliers in Thailand. Find updated business information on Thailand Agri Food companies.

NEWS

    

น้ำตาลทรายแอบขึ้นราคาแล้ว กิโลละ 4 บาท

“น้ำตาลทราย"

น้ำตาลทรายแอบขึ้นราคาแล้ว กก. ละ 4 บาท ลุ้น สอน.ประกาศขยับราคาน้ำตาลหน้าโรงงานเดือนพ.ย.นี้ ตามตลาดโลก จ่อดันราคาขายทะลุ 30 บาท/กก. จับตาโรงงานแห่ส่งออกทำไทยขาดแคลนน้ำตาลในประเทศ

วันที่ 26 ตุลาคม 2566 รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้โรงงานน้ำตาลหลายแห่งได้ปรับราคาน้ำตาลทรายขึ้นไปแล้วประมาณ 4-5 บาท/กก. ส่งผลให้ราคาน้ำตาลทรายขาวขึ้นไปอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 23-24 บาท จากเดิม 19 บาท และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ขึ้นไปอยู่ที่ 24-25 บาท จากเดิม 20 บาท ตามราคาน้ำตาลทรายขาวตลาดโลก บวกพรีเมี่ยมคิดกลับเป็นเงินไทยที่อ่อนค่าราคาขยับสูงขึ้นมากอยู่ที่ กก.ละ 27-28 บาท

ขณะที่ราคาที่ใช้คำนวณหน้าโรงงานอยู่ที่ กก.ละ 19-20 บาท หากปล่อยให้เป็นปัญหาต่อไป เกรงว่าโรงงานน้ำตาลจะแห่ส่งออกน้ำตาลไปนอกประเทศกันหมด จนส่งผลให้น้ำตาลในประเทศตึงตัวหรืออาจขาดแคลนได้

ดังนั้น รัฐบาลโดย สอน. ควรต้องประกาศราคาน้ำตาลหน้าโรงงานตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริง เพื่อนำมาคำนวณราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2566/67 ภายในเดือน พ.ย.นี้ และเพื่อให้ประโยชน์นั้นได้ตกกับชาวไร่อ้อยในการได้รับราคาน้ำตาลที่สูงขึ้นจากปริมาณน้ำตาลทรายจำหน่ายในประเทศที่จะมาคำนวณราคาขั้นต้น 25 ล้านกระสอบ

“สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) อยู่ระหว่างเสนอราคาน้ำตาลที่ใช้ในการคำนวณราคาอ้อยและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย ฤดูการผลิตปี 2566/67 ต่อคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กนอ.) ที่มีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน ซึ่งจะประชุมภายในเดือน พ.ย.นี้”

ทั้งนี้ สุดท้ายราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานจะปรับขึ้นเท่าไรนั้น ต้องขึ้นอยู่กับผลการประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายในเดือน พ.ย. 2566 เช่น อาจจะปรับขึ้น 2 บาทในส่วนของระบบแบ่งปันผลประโยชน์ให้ชาวไร่อ้อยก่อน หรือว่าอาจขึ้น 3 บาท เข้าระบบ 2 บาท เข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อดูแลสิ่งแวด ล้อม 1 บาทก่อน หรืออาจปรับขึ้น 4 บาทเลย ต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

รายงานข่าวระบุว่า จากการสำรวจราคาน้ำตาลทรายในท้องตลาดเบื้องต้น ล่าสุดราคาขายปลีกน้ำตาลทรายอยู่ที่ประมาณ กก.ละ 26-29 บาท ขึ้นอยู่แต่ละชนิด ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปว่า หาก สอน.ประกาศขึ้นราคาครั้งใหม่ จะส่งผลให้ราคาน้ำตาลในประเทศปรับขึ้นเกินกว่า กก.ละ 30 บาทหรือไม่ หรือเป็นเพียงการปรับขึ้น เพื่อการคำนวณให้ชาวไร่อ้อยเพิ่มเติมเท่านั้น

“หากราคาน้ำตาลทรายปรับขึ้นไปจากที่เป็นอยู่อีก ย่อมส่งผลให้ราคาสินค้าอื่น ๆ ที่ใช้น้ำตาลทรายเป็นส่วนประกอบ ต้องปรับขึ้นราคาตาม โดยเฉพาะเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ทั้งน้ำอัดลม น้ำผลไม้ เครื่องดื่มชูกำลัง นมและผลิตภัณฑ์ รวมถึงขนม เบเกอรี่ อาหาร เป็นภาระค่าครองชีพของคนสูงขึ้นไปอีก ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป”

นายปารเมศ โพธารากุล ประธานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายดังกล่าวเป็นไปตามข้อเสนอที่ชาวไร่ผลักดันไปก่อนหน้านั้นและคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เมื่อ 28 ก.ย. 2566 ก็เห็นชอบ ตามราคาตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้น แต่เรื่องดังกล่าวได้เงียบไป

ดังนั้นจึงไม่ได้เกี่ยวกับว่าหากขึ้นราคาน้ำตาลแล้ว ชาวไร่อ้อยจะต้องไม่ได้รับเงินสนับสนุนการตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ตันละ 120 บาท ที่รัฐยังคงค้างจ่ายปีการผลิต 2565/66 แต่อย่างใด แต่หากรัฐบาลจะพิจารณาออกมาแบบนี้ ชาวไร่ก็พร้อมจะปฏิบัติตาม ขอเพียงให้ภาครัฐมีความชัดเจนโดยเร็วก่อนที่จะมีการเปิดหีบฤดูการผลิตปี 2566/67 ช่วงเดือน ธ.ค.นี้

“ยอมรับว่าการตัดอ้อยสดตามนโยบายรัฐบาลทำให้ชาวไร่อ้อยมีต้นทุนเพิ่มขึ้นซึ่งหากรัฐไม่มีความชัดเจนในเรื่องเงินสนับสนุนฤดูกาลนี้ ก็จะซ้ำรอยเดิมเหมือนปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ชาวไร่อ้อยยังไม่ได้รับเงินสนับสนุนเลย ทำให้อ้อยไฟไหม้มีปริมาณเพิ่มขึ้น และการหารือล่าสุดชาวไร่อ้อยยืนยันว่ายังคงใช้หลักเกณฑ์เดิมคือการส่งอ้อยไฟไหม้จะถูกหักเงินเข้ากองทุนตันละ 30 บาทเท่านั้น ไม่รับข้อเสนอรัฐที่ต้องการหักถึง 90 บาท เพราะเป็นอัตราที่สูงเกินไปเหมือนเราเป็นผู้ร้ายสังคม ทั้งที่รถยนต์ปล่อยมลพิษมากกว่าเราเยอะ” นายปารเมศ กล่าว

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/economy/news-1424087