เอสเอ็มเอสฯ ชูนวัตกรรมเพิ่มมูลค่าเกษตรดัดแปร ลุยส่งออกเจาะเฮลท์ตี้ฟู้ด

"เอสเอ็มเอส คอร์ปอเรชั่น" ในกลุ่มพูลผล ยักษ์ใหญ่ กลุ่มมันสำปะหลังดัดแปร อันดับต้นของไทย รุกขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป สร้างมูลค่าสินค้าเกษตรไทย ขยายส่งออก ปักหมุดสู่ Global Leader ของผู้ผลิตแป้งดัดแปรภายใต้การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ใน 3-5 ปี

ประเทศไทยเป็นเสาหลักของการผลิตสินค้าเกษตรสำคัญหลายกลุ่ม โดยเฉพาะมันสำปะหลัง โดยไทยมีการส่งออกแป้งมันเป็นอันดับหนึ่งของโลกมายาวนาน โดยแป้งมัน เป็นวัตถุดิบสำคัญและส่วนผสมที่ขาดไม่ได้ในการผลิตอาหารมากมาย

ทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไข่มุกที่ใส่ในชานม ไส้กรอก ลูกชิ้น อาหารขบเคี้ยว ใช้เป็นสารเพิ่มความข้นหนืดเพื่อช่วยให้เกิดความคงตัวในผลิตภัณฑ์ซุป ซอส เครื่องดื่ม รวมถึงยังเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์กลุ่มนอนฟู้ดด้วยเช่นกัน

"เอสเอ็มเอส คอร์ปอเรชั่น” ในกลุ่มพูลผล หนึ่งในผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลังดัดแปร (Modified Starch) รายใหญ่ลำดับต้นๆ ของไทย กำลังผลิตรวม 4 แสนตันต่อปี มีความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์แป้งมันดัดแปรที่ล้ำหน้า!

ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นธงนำขับเคลื่อนธุรกิจแปรรูปผลิตทางการเกษตร ปัจจุบันทำตลาดลูกค้า B2B สัดส่วนในประเทศ 20% ส่งออก 80% ไปใน 70 ประเทศทั่วโลก ตลาดหลักอยู่ในภูมิภาคเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลี อินโดนีเซีย ไต้หวัน รวมถึงสหรัฐ

เขม หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เอ็ม เอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญเรื่องนวัตกรรม การลงทุนวิจัยและพัฒนา (R&D) การพัฒนาบุคลากร และมีเครือข่ายเกษตรกรที่แข็งแกร่ง เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุด!ท่ามกลางปัจจัยเปลี่ยนแปลงต่างๆ พร้อมทำให้ลูกค้าทั่วโลกมีความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของบริษัท

สำหรับเครือข่ายเกษตรกรที่เข้มแข็งได้มีความร่วมมือกับการเกษตรที่ปลูกมันสำปะหลังทั้งในพื้นที่ จังหวัดชัยภูมิและบุรีรัมย์ กว่า 3,000 ครัวเรือน ซึ่งเป็นระบบ Membership Farming ทำให้เกษตรกรมีแหล่งที่นำผลผลิตมาขายตรงถึงโรงงาน ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง จึงได้ราคาที่ดี พร้อมมีการส่งเสริมการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ ส่งเสริมองค์ความรู้ การบริหารจัดการต้นทุน เพิ่มผลผลิตต่อไร่ อีกทั้งได้สร้างโรงเรียนมันสำปะหลัง ในจังหวัดชัยภูมิ เพื่อร่วมส่งเสริมเกษตรกรมีวิถีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนและร่วมเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรไปพร้อมกัน

ขณะที่ฐานการผลิตสินค้าในโรงงานมีอยู่ 3 แห่งทั้งในบุรีรัมย์ ชัยภูมิ และปทุมธานี โดยในบุรีรัมย์และชัยภูมิ เป็นแหล่งรับซื้อผลิตและส่งตรงมาแปรรูปในโรงงานทันที

แนวทางการสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งและโดดเด่นคือ การทำ R&D เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างความแตกต่างให้แก่ผลิตภัณฑ์ โดยจัดสรรงบราว 2% ในการวิจัยและพัฒนาสินค้าพร้อมทีมงานกว่า 60 คน ผลิตภัณฑ์อยู่ในส่วนผสมของอาหารที่มีความหลากหลาย อาทิ กลุ่มขนมปัง ซอสต่างๆ ขนม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไส้กรอก ไปจนถึงเครื่องดื่ม เช่น น้ำผลไม้ ล่าสุด มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ แป้งสำหรับใช้เป็นส่วนผสมในกลุ่มแพลนต์เบส (plant base) เพื่อเพิ่มความพิเศษให้แก่อาหาร ทั้งเนื้อสัมผัสและรสชาติ เช่น ปลาแซลมอน ที่เป็น แพลนต์เบสครีม ที่อยู่ในส่วนผสมของขนม และเครื่องดื่ม ชาลิ้นจี่ ที่มีฟองด้านบน สร้างความแปลกใหม่

กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เปิดตัวในงานมหกรรมงานแสดงสินค้าเทคโนโลยี และนวัตกรรมส่วนผสมอาหาร สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในเอเชีย หรือ Food Ingredients Asia 2023 (Fi Asia 2023) จาก 500 บริษัทจากทั่วโลก เมื่อ 20-22 ก.ย.ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งบริษัทได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าทั้งบริษัทในไทยและคู่ค้าจากทั่วโลก

"การต่อยอดไปสู่ แพลนต์เบส เป็นการเชื่อมโยงกับธุรกิจครอบครัวของกลุ่ม พูลผล ที่เริ่มต้นจากการเกษตรมายาวนานกว่า 80 ปี และมีการขยายธุรกิจในการเกษตรอย่างหลากหลาย อาทิผลิตภัณฑ์กับ วุ้นเส้นต้นสน และน้ำมันพืชกุ๊ก"

กลุ่มพูลผล ทำการเกษตรมานานกว่า 80 ปี จุดแข็งที่ทำให้ธุรกิจขยายตัวเติบโตต่อเนื่องเปลี่ยนผ่านจากรุ่นสู่รุ่น มาจากการบริหารงานแบบ professional

"ผมเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 เข้ามาร่วมสานต่อธุรกิจ เริ่มต้นทำงานตั้งแต่ฝ่ายวิศวกร เพื่อเรียนรู้และเข้าใจการทำงานในบริษัทได้ทั้งหมด"

ปีนี้ บริษัทนําเสนอผลิตภัณฑ์แป้งมันสําปะหลังดัดแปร เน้น 4 pillars ประกอบไปด้วย Plant Protein, Fiber Solutions, Waxy Tapioca และ Bioplastic เพื่อตอบสนองความต้องการของทั้ง ผู้ผลิตและผู้บริโภคอาหารในด้านคุณสมบัติและคุณประโยชน์ของอาหารที่ดีและใส่ใจต่อสุขภาพ พร้อมทั้งตอบโจทย์เพื่อความยั่งยืนทางอาหารและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

แผนงานปีต่อไปมุ่งขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ ไปในกลุ่มประเทศยุโรป และอเมริกาใต้ เพื่อรองรับเทรนด์การกินและการดูแลสุขภาพในต่างประเทศมากขึ้น พบว่าเป็นตลาดที่ใช้แป้งที่แปรรูปจากถั่วเหลืองมาเป็นส่วนผสมในอาหาร ขณะที่โปรดักต์เรือธงและเป็นจุดแข็งของเอส เอ็ม เอส มาจากแป้งมันสำปะหลัง เป็นการปลูกจากธรรมชาติ ไม่มีปัญหาพืชจีเอ็มโอ จึงเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจและมีโอกาสขยายตัวในระยะยาว พร้อมนำเสนอสินค้าแป้งมันดัดแปร เป็นสินค้าเกษตรที่มีความเป็นพรีเมี่ยม เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า

หมุดหมายระยะยาว 3-5 ปีข้างหน้า จะนำพาองค์กรก้าวสู่ Global Leader ของผู้ผลิตแป้งดัดแปรภายใต้การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ สร้างนวัตกรรมทางอาหาร เป็น Food Solution ให้แก่ผู้ผลิตอาหาร เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรของไทยอย่างสูงสุด โดยอาหารของไทย เป็นหนึ่งในซอฟต์เพาเวอร์สำคัญที่ควรผลักดันและส่งเสริมไปในทั่วโลก

"ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มี Geographic ดีที่สุดในโลก เราอยู่ในเขตศูนย์สูตร ที่สามารถปลูกมันสำปะหลังและให้ผลิตที่ดี"

นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าขยายตลาดต่อเนื่อง มีการไปร่วมงานแสดงสินค้าต่อเนื่องทุกปี ทั้งในสหรัฐ จีน ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์

ภาพรวมบริษัทมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี ปีที่ผ่านมามีรายได้รวมกว่า 7,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ มุ่งเคลื่อนองค์กรด้วยความยั่งยืน การดำเนินธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วางองค์กรสู่ "Net Zero 2030"

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1090363