พริกไทย ราชาแห่งเครื่องเทศ
พริกไทย ราชาแห่งเครื่องเทศ
ราชาเครื่องเทศอย่างพริกไทยไม่ได้มีเพียงกลิ่นฉุนและรสชาติที่ร้อนแรงเท่านั้น พริกไทยสามารถนำมาใช้ได้ทั้งเมล็ดอ่อนและเมล็ดแก่ อาหารไทยที่ใช้พริกไทยเป็นเครื่องปรุง เช่น แกงกะหรี่ ฉู่ฉี่ ทอดมัน แกงเผ็ดต่าง ๆ หรือแม้แต่ใส่เป็นเครื่องปรุงในโจ๊ก หรือ ข้าวผัด ก็เพิ่มรสชาติและกลิ่นให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีสรรพคุณและประโยชน์มากมายด้วย ทั้งเป็นเครื่องปรุงที่เอาไว้ดับคาวอาหารและเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อการรักษาร่างกายอีกด้วย
มาทำความรู้จักพริกไทยกันพริกไทย (Pepper) เป็นหนึ่งในเครื่องเทศที่มีการใช้ปรุงอาหารมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก บางครั้งถูกขนานนามว่า ราชาแห่งเครื่องเทศ พริกไทยนั้นเป็นสมุนไพรเครื่องปรุงกลิ่นรสอาหารจากธรรมชาติที่กลิ่นหอมฟุ้งมีเอกลักษณ์ รสชาติเผ็ดร้อน สามารถใช้เป็นสารกันเสียได้อีกด้วย เนื่องจากมีฤทธิ์ต่อต้านจุลินทรีย์ พริกไทยมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Piper Nigrum มีแหล่งกำเนิดจากภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดีย ในสมัยก่อนนั้นเป็นสินค้ามีค่ามากราวกับทองคำ ปัจจุบันเป็นพืชเศรษฐกิจในประเทศอากาศร้อน เช่น เวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย และบราซิล เป็นต้น
ประเภทของพริกไทย1. พริกไทยอ่อน สำหรับพริกไทยอ่อน บางครั้งเรียกว่า พริกไทยสด หรือ พริกไทยดิบ เพราะมีเปลือกเมล็ดสีเขียว ผลยังไม่สุก เคี้ยวรับประทานได้ทันที และใช้ประกอบอาหาร เพิ่มกลิ่นหอมฉุน รสเผ็ด พร้อมกับช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์จากเนื้อ หรือกลิ่นคาวอื่น ๆ นิยมขายเป็นช่อผลรวมกันดูสวยงาม ใช้ตกแต่งจานอาหารก็สวยอีกแบบ
2. พริกไทยดำ ในส่วนพริกไทยดำเป็นผลแห้ง เปลือกดำสมชื่อ แปรรูปจากผลที่ยังไม่สุกสีเขียวเข้ม เปลือกเมล็ดแข็งมาตากแดด มีทั้งแบบเมล็ด และแบบป่น ซึ่งพริกไทยดำมีกลิ่นหอมกว่าพริกไทยสด ช่วยเพิ่มกลิ่นและรสของอาหารได้ดีเยี่ยม เพราะมีรสเผ็ดฉุนกว่า นิยมใช้หมักสเต๊กเนื้อ สเต๊กหมูชั้นดี
3. พริกไทยขาว หรือ พริกไทยล่อน เป็นผลผลิตจากผลพริกไทยสุกคาต้นสีแดง แช่น้ำและแยกเปลือกออก เหลือเพียงเมล็ดสีขาว หลังจากนั้นก็ผ่านกระบวนการอบ หรือตากแห้งก่อนใช้ปรุงอาหาร ผัด นึ่ง แกง กลิ่นหอมอ่อน และมีรสเผ็ดใกล้เคียงกับพริกไทยดำ แตกต่างที่รูปลักษณ์ แต่ละมุนกว่า ส่วนใหญ่ใช้ปรุงอาหารจีน อาหารไทยที่ไม่ต้องการแต่งสีเพิ่มเติม
ประโยชน์ของพริกไทย1. ป้องกันมะเร็ง พริกไทยสามารถป้องกันมะเร็งได้ และจะมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่า เมื่อทานรวมกับขมิ้น โดยในพริกไทยนั้นมีวิตามินซี วิตามินเอ flavonoids carotenes และยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ ที่ช่วยขจัดอนุมูลอิสระที่เป็นอันตราย และปกป้องร่างกายจากโรคมะเร็งและโรคต่าง ๆ โดยวิธีที่ดีที่สุดในการกินพริกไทยเพื่อประโยชน์สูงสุด คือ การทานพริกไทยบดแบบสด ๆ และไม่ปรุงอาหารพร้อมกับอาหาร อาจจะทานยากหน่อยแต่ได้ประโยชน์จริง ๆ
2. ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร สารที่ชื่อว่า Piperine ในพริกไทย ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร และกระตุ้นกระเพาะอาหาร ซึ่งจะหลั่งกรดไฮโดรคลอริกขึ้นมาช่วยย่อยโปรตีนในอาหาร ดังนั้น แม้จำนวนเล็กน้อยของพริกไทยในอาหารจะช่วยให้คุณย่อยได้เร็วขึ้น
3. แก้อาการไอ พริกไทยมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียในธรรมชาติ จึงช่วยในการรักษาอาการไอ โดยผสมพริกไทยดำบดกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการแน่นหน้าอกซึ่งเกิดจากภาวะไข้หวัดใหญ่หรือการติดเชื้อไวรัส คุณสามารถชงพริกไทยในน้ำร้อนและผสมน้ำมันยูคาลิปตัส จากนั้นสูดไอน้ำลงไป
4. ช่วยลดน้ำหนัก คุณอาจจะไม่อยากเชื่อเรื่องนี้ แต่พริกไทยดำที่ชั้นนอกสุดของมันมี Phytonutrients ซึ่งช่วยในการทำลายเซลล์ไขมันและยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหาร ถ้าคุณกินพริกไทยสดและเริ่มมีเหงื่อออก นั่นแสดงให้เห็นว่าพริกไทยช่วยในการกำจัดน้ำส่วนเกินในร่างกาย แต่ต้องทานในปริมาณที่พอดี แค่นิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอแล้ว
5. ทำให้ผิวสวย ทราบหรือไม่ว่าพริกไทยเป็นหนึ่งในของขวัญจากธรรมชาติที่ดีที่สุดสำหรับการทำให้ผิวสวย การทานอาหารที่มีพริกไทยจะทำให้ผิวที่ไม่สวยดูสวยขึ้น พริกไทยยังช่วยในการรักษาสีผิวให้สม่ำเสมออีกด้วย
6. ลดภาวะซึมเศร้า สาร Piperine ในพริกไทยช่วยในการจัดการกับภาวะซึมเศร้า โดยจะไปช่วยกระตุ้นสมองและช่วยให้สมองทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
เมื่อทราบแล้วว่าพริกไทยเป็นสมุนไพรใกล้ ๆ ตัว ที่หารับประทานได้ง่ายและมีประโยชน์มาก ลองหันมารับประทานพริกไทยเพื่อประโยชน์ที่มีต่อร่างกายกันเถอะ
ขอบคุณข้อมูลจาก:
www.chonklang.com,
www.krataiku.com
