A comprehensive directory of food manufacturers, distributors and suppliers in Thailand. Find updated business information on Thailand Agri Food companies.

ADVERTORIALS

    

ชาเขียว กับ สุขภาพ



ชาเขียว หนึ่งในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพยอดนิยม มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาพร้อมกับรสชาติธรรมชาติที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นเมื่อได้ลิ้มลอง แถมด้วยสรรพคุณที่มีต่อร่างกายมากมาย แต่หากดื่มปริมาณมากไป ก็จะส่งผลกระทบเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ จึงควรเลือกบริโภคให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย

ชาเขียว (Green Tea) ต้นกำเนิดมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นชาที่ได้มาจากต้นชา ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Camellia Sinensis เป็นชาที่ไม่ผ่านขั้นตอนการหมัก โดยการนำใบชาสดมาผ่านความร้อนเพื่อทำให้ใบชาแห้งอย่างรวดเร็วในหม้อทองแดง โดยใช้ความร้อนไม่สูงเกินไป และใช้มือคลึงเบา ๆ ก่อนแห้ง หรือ อบไอน้ำในระยะเวลาสั้น ๆ แล้วนำไปอบแห้ง เพื่อยับยั้งการทำงานเอนไซม์ (ความร้อนจะช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ทำให้ไม่เกิดการสลายตัว) จึงจะได้ใบชาที่แห้งแต่ยังคงความสดอยู่ และมีสีที่ค่อนข้างเขียว จึงเรียกกันว่า 'ชาเขียว'



ใบชาที่ไม่ผ่านขั้นตอนการหมัก ทำให้ใบชามีสารประกอบฟีนอลหลงเหลืออยู่มากกว่าในชาอู่หลงและชาดำ (สองชนิดนี้คือชาที่ผ่านการหมัก) จึงทำให้ชาเขียวมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากกว่า โดยชาเขียวจะมีสาร Epigallocatechin Gallate (EGCG) ประมาณ 35 - 50% ส่วนชาอู่หลงมีประมาณ 8 - 20% และชาดำจะมี EGCG อยู่เพียง 10%

สารสำคัญที่เป็นประโยชน์พบได้ในชาเขียว ประกอบไปด้วยกรดอะมิโน วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี สารในกลุ่ม Xanthine Alkaloids คือ คาเฟอีน และธิโอฟิลลีน ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ที่เรียกว่า คาเทชิน และยังมีสารสำคัญในใบชาเขียวกลุ่มโพลีฟีนอล (Polyphenols) ที่ชื่อว่า เคทิชิน (Catechins) จะทำหน้าที่จับกับอนุมูลอิสระ และขัดขวางการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยต้านโรคภัยได้มากมาย เช่น ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคมะเร็งได้ นอกจากนี้ ในชาเขียวมีสารแทนนิน (Tannin) ที่มีฤทธิ์ฝาดสมานและเป็นสารที่ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย จึงเป็นไปได้ถ้าดื่มชาปริมาณมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นแบบชง หรือ แบบพร้อมดื่ม ก็สามารถทำให้เกิดอาการท้องผูกได้เช่นกัน



การรับประทานชาเขียวให้ได้สารต้านอนุมูลอิสระ จะต้องชงชาเขียวเข้มข้นแบบญี่ปุ่นและต้องดื่มชาเขียวอย่างน้อยวันละ 20 แก้ว เป็นประจำทุกวัน จึงจะสามารถป้องกันมะเร็งได้ ซึ่งในทางปฏิบัติอาจทำได้ยาก และยิ่งการดื่มน้ำชาเขียวปัจจุบันเป็นชาเขียวที่เจือจาง ทั้งยังปรุงรสแต่งกลิ่นและรสด้วยน้ำตาล ซึ่งหากดื่มมาก ๆ อาจทำให้เกิดโรคอ้วนได้

ส่วนการดื่มชาร้อนนั้น มีผลวิจัยทางการแพทย์ระบุว่า สารต้านอนุมูลอิสระในชาจะหายไปประมาณ 20% หากโดนความร้อนนาน ๆ เคล็ดลับการชงชาเขียวให้สารต้านอนุมูลอิสระคงอยู่ ทำได้โดยบีบมะนาวลงไประหว่างชงชา จะคงประโยชน์ของชาไว้ได้มากที่สุด

ถึงแม้ว่า ชาเขียว จะมีรสชาติดี หาซื้อได้ง่าย ราคาเป็นมิตร มีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพและมีประโยชน์มากมาย แต่หากดื่มหรือกินมากเกินไปก็มีโทษได้เหมือนกัน ดังนั้น ใช้ชาเขียวเป็นตัวเลือกในการดูแลสุขภาพ และรู้จักวิธีกินให้ได้คุณค่าและประโยชน์จากชาเขียวให้มากที่สุด

ขอบคุณแหล่งที่มา
วรางรัตน์ เสนาสิงห์, จาก https://www.scimath.org/article-science/item/9806-2019-02-21-07-33-02

ขอบคุณรูปภาพ
raoyi163, จาก https://pixabay.com/th/photos/ชา-ชาเขียว-2657301/
appledeng, จาก https://pixabay.com/th/photos/ชาเขียว-ชา-พิธีชงชา-3528474/