A comprehensive directory of food manufacturers, distributors and suppliers in Thailand. Find updated business information on Thailand Agri Food companies.

NEWS

    

ธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ก็หนีไม่พ้นภาษีสรรพสามิต !

ธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์


จากที่เราทราบกันดีว่าน้ำดื่มที่มีแอลกอฮอล์จะต้องเสียภาษีสรรพาสามิต แล้วน้ำดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำแร่ น้ำดื่มเพื่อสุขภาพล่ะ ต้องเสียภาษีด้วยหรือไม่

ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มที่ผลิตน้ำดื่ม ชา กาแฟ เพื่อให้มีผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำทุกชนิดอยู่ในแบรนด์และบรรจุภัณฑ์ของตนเอง จะมีภาษีสรรพสามิตเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ตามพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527

กรมสรรพสามิต ให้ความหมายของคำว่า 'เครื่องดื่ม' ว่าสิ่งที่ตามปกติใช้เป็นเครื่องดื่มได้โดยไม่ต้องเจือปนและไม่มีแอลกอฮอล์ โดยจะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ด้วยหรือไม่ก็ตาม บรรจุในภาชนะและผนึกไว้ ซึ่งก่อนที่จะทำการผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม เจ้าของกิจการจะต้องดำเนินการ ดังนี้

1. จดทะเบียนพาณิชย์ ภายใน 30 วัน นับแต่วันเริ่มผลิตหรือจำหน่าย

2. ขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีจากกรมสรรพากร ตามขนาดและประเภทธุรกิจ เพื่อใช้ในการยื่นแบบ แสดงรายการภาษีเงินได้ การชำระภาษี การหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย การติดต่อราชการกับกรมสรรพากร รวมทั้งการจัดทำเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน ซึ่งเอกสารเหล่านี้มีผลต่อภาษีเครื่องดื่มทั้งนั้น

3. จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อรายได้จากการขายเครื่องดื่มเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี

4. ขออนุญาตตั้งสถานที่ผลิตเครื่องดื่มจากหน่วยราชการท้องถิ่น โดยถ้าหากสถานที่ในการผลิตเป็นอาคารหรือโรงงาน เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างด้วย (กรณีเช่าต้องทำการตกลงกันกับผู้ให้เช่าว่าใครจะเป็นผู้เสียภาษีนี้)

5. แจ้งวันทำการผลิตและราคาขายต่ออธิบดีกรมสรรพสามิต โดยยื่นกับสำนักงานสรรพสามิตที่ใกล้กับพื้นที่ขาย และแจ้งราคาขายไม่น้อยกว่า 7 วันก่อนวันเริ่ม รวมทั้งจดแจ้งฉลาก และจัดทำบัญชีเพื่อใช้ประกอบการเสียภาษีสรรพสามิตด้วย

6. จัดทำรายงานภาษี ซึ่งประกอบด้วย รายงานภาษีซื้อ รายงานสินค้าและวัตถุดิบ ซึ่งสามารถใช้บริการทำบัญชีจากสำนักงานที่มีความน่าเชื่อถือได้ ก่อนยื่นต่อกรมสรรพสามิต เพื่อให้ตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนนำสินค้าออกวางจำหน่าย



ผลิตเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์จำหน่าย ก็ต้องจดทะเบียนพาณิชย์

เอกสารสำหรับจดทะเบียนพาณิชย์ ประกอบด้วย
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของธุรกิจ
2. แบบคำขอจะทะเบียนพาณิชย์ แบบ ทพ.
3. แผนที่แสดงสถานที่ตั้งร้าน
4. หากเป็นนิติบุคคล ต้องมีหนังสือรับรองบริษัท
5. เงินจำนวน 50 บาท
6. หนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ หรือสัญญาเช่า (กรณีเจ้าของธุรกิจไม่ใช่เจ้าของสถานที่)
7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของกรรมสิทธิ์ (กรณีเจ้าของธุรกิจไม่ใช่เจ้าของสถานที่)
8. สำเนาหนังสืออนุญาต หรือหนังสือรับรองให้เป็นผู้จำหน่ายจากเจ้าของลิขสิทธิ์ (เฉพาะธุรกิจขาย ให้เช่า ผลิต หรือรับจ้างผลิต แผ่นซีดี แถบบันทึก วีดิทัศน์ แผ่นวีดิทัศน์ ดีวีดี หรือแผ่นวีดิทัศน์ระบบดิจิตอลเฉพาะที่เกี่ยวกับบันเทิง)
9. หลักฐานแสดงจำนวนเงินทุน ยกเว้นนิติบุคคล (เฉพาะธุรกิจขายอัญมณี หรือเครื่องประดับที่ประดับด้วยอัญมณี)


โดยสามารถยื่นขอจดทะเบียนพาณิชย์ได้ที่ สำนักงานเขต สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักการคลัง เทศบาล อบต. ที่ธุรกิจของผู้ประกอบการตั้งอยู่เท่านั้น



การขอใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหาร

ก่อนดำเนินการผลิตเครื่องดื่มต่าง ๆ เจ้าของธุรกิจต้องขออนุญาตตั้งสถานที่ผลิตเครื่องดื่ม โดยการขอใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้งจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหาร หรือสถานที่สะสมอาหาร ซึ่งสามารถดำเนินกิจการได้ทันทีหลังจากยื่นคำขอตามแบบฟอร์มที่กฎหมายกำหนด ดังนี้

1. เอกสารที่ต้องใช้
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับใบอนุญาตหรือผู้แจ้ง
  • สำเนาทะเบียนบ้านของบ้านที่ใช้เป็นที่ตั้งสถานประกอบการ
  • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้แทนนิติบุคคล (กรณีผู้ขอรับใบอนุญาตหรือผู้แจ้งเป็นนิติบุคคล)
  • หนังสือยินยอมให้ใช้อาคารหรือสำเนาหนังสือเช่าจากเจ้าของอาคาร
  • หนังสือมอบอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีผู้ประกอบการไม่สามารถมายื่นคำขอด้วยตนเอง)
  • ผลการตรวจสุขภาพหรือใบรับรองแพทย์ของพนักงานผู้สัมผัสอาหาร
  • สำเนาใบวุฒิบัตรผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหารของกรุงเทพมหานคร (ถ้ามี)
  • แผนที่สังเขปแสดงสถานที่ตั้งสถานประกอบการ
  • ใบอนุญาตจากส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี)

    2. ค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารและสถานที่สะสมอาหาร
  • พื้นที่ประกอบการไม่เกิน 300 ตารางเมตร ฉบับละ 2,000 บาท
  • พื้นที่ประกอบการเกิน 300 ตารางเมตร คิดเพิ่มตารางเมตรละ 5 บาท โดยให้คิดพื้นที่เป็นจำนวนเต็มปัดเศษทิ้งแต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 3,000 บาท

    3. ค่าธรรมเนียมการออกหนังสือรับรองการแจ้งจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหาร และสถานที่สะสมอาหาร และค่าธรรมเนียมสำหรับการดำเนินกิจการรายปี
  • พื้นที่ประกอบการไม่เกิน 10 ตารางเมตร ฉบับละ 100 บาท
  • พื้นที่ประกอบการเกิน 10 ตารางเมตร คิดเพิ่มตารางเมตรละ 5 บาท โดยให้คิดพื้นที่เป็นจำนวนเต็มปัดเศษทิ้ง แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 1,000 บาท



    การผลิตน้ำดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์เพื่อจำหน่ายนั้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม นม ชา หรือกาแฟ จนถึงการทำแบรนด์ของตนเอง ล้วนต้องเสียภาษีสรรพาสามิตเหมือนเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ ยังต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหากรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท ภาษีเงินได้ ภาษี หัก ณ ที่จ่าย และต้องจดทะเบียนพาณิชย์อีกด้วย



    ขอบคุณที่มาโดย : กรุงเทพธุรกิจ

    ขอบคุณภาพโดย : AI-generated on Freepik