10 April 25 กรุงเทพธุรกิจ by Kanokkan
ผลงานเดือนมีนาคม 2568 "เต่าบิน" อยู่ในขั้นดีมากๆ ไตรมาส 1 กลับมาเท่าปีก่อน แผนโตมุ่งเพิ่มตู้แตะ 1 หมื่นจุดทั่วไทย เป้ายอดขาย 900 บาทต่อตู้ต่อวัน ลุยส่งออก 600 ตู้ต่างแดน
ปี 2567 “เต่าบิน” อาจมีรายได้ “ลดลง” สวนทางกับ “จำนวนตู้ที่เพิ่มขึ้น” ทว่า ปี 2568 บริษัทยังมองการเติบโต และนอกจากหาโอกาสทางธุรกิจในประเทศไทย ชิงขุมทรัพย์เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ยังลุยต่างประเทศเพิ่มขึ้น
บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) เผยภาพรวมตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท จากหลากหลายประเภทเครื่องดื่ม เช่น กาแฟ ชา นม เครื่องดื่มสุขภาพ ฯ และตลาดดังกล่าวเติบโตตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น การเลือกเครื่องดื่มของผู้บริโภคจึงตอบความต้องการแต่ละคน
สำหรับกลุ่มบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น ได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ เครื่องผลิตเครื่องดื่มชงสดหรือคาเฟ่อัตโนมัติ “เต่าบิน” หวังเติมช่องว่างในตลาดเครื่องดื่ม และผู้บริโภคทุกกลุ่มวัย
ปี 2567 บริษัทมีตู้ “เต่าบิน” 7,150 จุดทั่วประเทศ ยอดขายกว่า 65.6 ล้านแก้ว และเป็นปีที่บริษัทปรับกลยุทธ์ “โยกย้ายตู้เต่าบิน” จากทำเลไม่มีคุณภาพ ไปยังทำเลที่มีคุณภาพ และนำตู้เต่าบินเวอร์ชันแรกกลับไปอัปเกรดเพื่อให้ขายเครื่องดื่มได้มากขึ้น จากที่ปัจจุบันมีขายกว่า 300 เมนู มีการอัปเกรดเพื่อให้เต่าบินมีประสิทธิภาพดีขึ้น มีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ควบคุมระบบการทำงานภายในตู้และแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องรอให้ “คน” ไปถึงตู้แล้วแก้ไข
อทันยา อมตานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด(เต่าบิน) บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2568 บริษัทตั้งเป้าหมายมีจุดติดตั้งตู้เต่าบินแตะ 1 หมื่นตู้ทั่วประเทศ แต่เป้าหมายที่คาดว่าทำได้แน่นอนอย่างน้อยที่สุดคือ 8,000 ตู้
นอกจากนี้ 3 กลยุทธ์ ที่จะขับเคลื่อนเต่าบินให้โตประกอบด้วย 1.จะอัปเกรดตู้ชงเครื่องดื่มอัตโนมัติเพื่อลดการออฟไลน์ อยู่ในสต๊อก และเพิ่มการออนไลน์ตู้ให้ได้ 96% 2.เดินหน้าเพิ่มความหลากหลายของเมนูเครื่องดื่มใหม่ๆ และ “ถี่ขึ้น” เพื่อทำให้มีความน่าสนใจ ดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และ3.การย้ายจุดติดตั้งตู้เต่าบินไปยังทำเลที่มีประสิทธิภาพ และทำให้สามารถ “ขายเครื่องดื่ม” ได้ 900 บาทต่อตู้ต่อวัน
ขณะที่ปี 2567 ยอดขายเครื่องดื่มเบิงปริมาณ 65.69 ล้านแก้ว โกยยอดขายเชิงมูลค่า 1,976 ล้านบาท จาก 7,150 ตู้ ทำเงินได้เฉลี่ยประมาณ 717 บาทต่อตู้ต่อวัน
“ปี 2568 เต่าบิน aim ใน 3 ด้านเพิ่มการออนไลน์ของตู้ให้ได้ 96% พัฒนาเครื่องดื่มใหม่ๆออกมาและถี่ขึ้น รวมถึงเพิ่มยอดขายให้ได้ 900 บาทต่อตู้ต่อวัน โดยปี 2567 เต่าบินทำกำไรขั้นต้นเฉลี่ยที่ 18% มีค่าใช้จ่ายในการขาย ทั่วไป และการบริหาร หรือ SG&A 8-9%”
สำหรับภาพรวมไตรมาส 1 ปี 2568 เต่าบินส่งสัญญาณผลประกอบการกลับมาเท่ากับไตรมาส 1 ปีก่อน และรายได้เดือนมีนาคมนี้จะมากกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนด้วย “แนวโน้มดีขึ้นมากๆ”
นอกจากตลาดในประเทศ เต่าบินยังโกอินเตอร์ต่อเนื่อง สามารถบุก ฮ่องกง เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และประเทศสิงคโปร์ ผ่านการผนึกกับพันธมิตร ที่คาดว่าจะเซ็นสัญญาทางธุรกิจด้วยกัน การลุยต่างประเทศยังทำให้ขายเครื่องดื่มต่อแก้วได้ในราคาสูง
สำหรับเป้าหมายส่งออกตู้เต่าบินปี 2568 เป็นดังนี้ ฮ่องกงเพิ่ม 151 ตู้ จาก 2 ตู้ ดูไบเพิ่ม 44 ตู้ จาก 51 ตู้ มาเลเซียเพิ่ม 44 ตู้ จาก 188 ตู้ สิงคโปร์เพิ่ม 110 ตู้ จาก 51 ตู้ ออสเตรเลียเพิ่ม 107 ตู้ จาก 104 ตู้ รวมทั้งปีจะส่งออก 600 ตู้ จาก 393 ตู้
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทุกอย่างของ “เต่าบิน” กลับสู่การดำเนินงานปกติ(Normal Operation)บริษัท จึงมองว่าเป็นปีที่ดี หากทุกอย่างลงตัว และไตรมาส 1 ผลงานบริษัทก็ดีขึ้นกว่าปีก่อนมากๆ
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1174863
