A comprehensive directory of food manufacturers, distributors and suppliers in Thailand. Find updated business information on Thailand Agri Food companies.

ADVERTORIALS

    

จิ๋วแต่แจ๋ว!!! ประโยชน์ของเมล็ดงา ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้



จิ๋วแต่แจ๋ว!!! ประโยชน์ของเมล็ดงา ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้



งา เป็นธัญพืชน้ำมันที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่ง มนุษย์มีความคุ้นเคยกับการปลูกงามายาวนานกว่า 3,000 ปี งามีหลายสายพันธุ์ มีความทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศมากกว่าพืชทั่วไป เป็นหนึ่งในพืชที่มีน้ำมันจากเมล็ดมากที่สุดอย่างหนึ่ง มีรสชาติคล้ายถั่ว และเป็นส่วนประกอบในอาหารนานาชนิดทั่วโลก

รับประทานเมล็ดงาอย่างไรให้ได้ประโยชน์ที่สุด
วิธีการรับประทานเมล็ดงาให้ได้ประโยชน์มากที่สุด คือ เคี้ยวให้ละเอียด ให้เมล็ดงาแตกออก ร่างกายจึงจะดูดซึมสารอาหารจากเมล็ดงาได้ดี จะรับประทานเปล่า ๆ หรือเอามาใส่กับอาหารอย่างอื่น เช่น ใส่ในขนมปัง โรยในจานข้าว หรือประกอบอาหารต่าง ๆ เพื่อช่วยให้รับประทานได้ง่ายขึ้นก็ได้

สำหรับผู้สูงอายุควรรับประทานเมล็ดงาวันละ 10 ช้อน ส่วนคนวัยทำงานควรรับประทานงาวันละ 3 - 4 ช้อน เป็นปริมาณเหมาะสมที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน

นอกจากนี้ เมล็ดงายังสามารถนำมาสกัดเป็นน้ำมันเพื่อใช้นวดทาบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายที่มีอาการปวด และยังช่วยรักษาอาการบาดเจ็บที่เส้นเอ็นได้

ประโยชน์ของเมล็ดงา
ป้องกันโรคมะเร็ง - เมล็ดงาดำอัดแน่นด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโรคมะเร็งลำไส้ และยังมีเซซามีน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านมะเร็งบางชนิด ช่วยป้องกันสารอนุมูลอิสระไม่ให้ทำลายตับ ทำให้ตับทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้ร่างกายไม่มีสารพิษสะสมก่อให้เกิดโรคมะเร็ง

ป้องกันโรคกระดูกพรุน - งาดำมีสารเซซามิน ซึ่งสารนี้จะช่วยในการยับยั้งการพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิดของเซลล์สลายกระดูกที่ให้เกิดโรคข้อเสื่อม โรคกระดูกพรุนได้ และเซซามินยังช่วยทำให้แคลเซียมประสานกับกระดูกเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด - ในงาดำมีกรดไขมันโอเมก้า 3 และกรดไขมันโอเมก้า 6 ที่มีคุณสมบัติช่วยลดคอเลสเตอรอล จึงสามารถช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัว ป้องกันโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด และโรคหัวใจได้ดี จึงช่วยทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้นอีกด้วย

บำรุงสมอง - ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง โดยช่วยฟื้นฟูเซลล์ประสาทรวม ซึ่งจะช่วยป้องกันและฟื้นฟูโรคเกี่ยวกับสมอง เช่น เส้นเลือดอุดตันในสมอง เส้นเลือดแตก ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ในระบบประสาท และยังป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย

บำรุงผิวและผม - งาดำมีสารต้านอนุมูลอิสระมากมายทั้งวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี และวิตามินอี ที่จะช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว อีกทั้งงาดำยังมีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจนจึงทำให้ผิวเปล่งปลั่งสดใส ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย

ช่วยบำรุงเลือด - ผู้ที่มีปัญหาหรือเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบเลือด ควรรับประทานงาดำเพราะมีธาตุเหล็กที่จะช่วยบำรุงเลือด ช่วยลดความดันโลหิต ขยายหลอดเลือด และป้องกันเกล็ดเลือดที่จะเกาะตัวกันเป็นลิ่ม

ช่วยเผาผลาญไขมัน - งาดำมีส่วนช่วยในการเผาผลาญและสลายไขมัน โดยงาดำจะช่วยให้ไขมันแตกตัวได้ดีขึ้นและยังช่วยให้ไขมันถูกย่อยสลายเร็วขึ้น ทำให้ไขมันสะสมลดลงเหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกิน

ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย - งาดำยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์จำนวนมากจึงช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น บรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวารและป้องกันโรคท้องผูก

บำรุงคนท้อง - งาดำเป็นอาหารที่ช่วยบำรุงคนท้องได้ดีมาก เพราะสารอาหารในงาดำจะช่วยพัฒนาระบบประสาทและสมองของทารก และงาดำยังมีแคลเซียมที่จะช่วยบำรุงกระดูกให้คุณแม่และเสริมสร้างความแข็งแรงให้ลูกน้อยอีกด้วย แต่ทั้งนี้ควรรับประทานหลังจากตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนไปแล้วจะปลอดภัยกว่า

ลดผมหงอก ผมร่วง - งาดำอุดมไปด้วยไขมันดี อย่าง กรดไขมันไลโนเลอิก ที่มีคุณสมบัติช่วยทำให้ผมดกดำเงางาม ลดการหลุดร่วงของเส้นผม และป้องกันผมหงอกอย่างได้ผลทีเดียว

เมล็ดงา เป็นพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หากรับประทานเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงภายในเมล็ดงายังเต็มไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย


ขอบคุณที่มาจาก: https://health.mthai.com, www.honestdocs.com