‘เทมเป้’ โปรตีนทางเลือกของชาววีแกนหรือคนทานมังสวิรัติ
เทมเป้ อาหารเพื่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารมากมาย และโดดเด่นในเรื่องมีโปรตีนสูง เป็นที่ชื่นชอบของคนรักสุขภาพและผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ อีกทั้งยังสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย และยังใช้ทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้อีกด้วย
เทมเป้ หรือ Tempeh คือ มีต้นกำเนิดจากประเทศอินโดนีเซีย เป็นโปรตีนชั้นดีที่สามารถกินทดแทนเนื้อสัตว์ได้ ถือว่าเป็น Whole Food* มากที่สุด เป็นผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองหมักกับ
เชื้อราสายพันธุ์ Rhizopus Oligosporus ซึ่งเป็นเชื้อราที่เป็นมิตร โดยราตัวนี้จะผลิตเอนไซม์หลายชนิดที่มีคุณสมบัติช่วยย่อยโปรตีนทำให้ง่ายต่อการดูดซึม ช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยยาก จึงช่วยลดอาการท้องอืด และช่วยย่อยกรดไฟติก (Phytic Acid) ซึ่งเป็นสารที่ขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม สังกะสี และเหล็กเข้าสู่ร่างกาย
* Whole Food คือ อาหารที่ปราศจากการปรุงแต่ง หรือ ผ่านการปรุงแต่งน้อยมากก่อนถูกนำมาบริโภค เป็นรูปแบบอาหารที่อยู่ในสภาพใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวกล้อง วิตามินและสารอาหารที่ได้รับนั้นก็จะยังอยู่เต็มที่
โดยชาวอินโดนีเซีย หรือ กลุ่มผู้นับถือศาสนาอิสลามนิยมทานเทมเป้ เพราะโปรตีนสูง สามารถกินทดแทนเนื้อหมูหรือเนื้อวัว โปรตีนที่เกิดขึ้นในเทมเป้จะถูกย่อยเป็นโปรตีนที่มีขนาดเล็กลง จนเปลี่ยนเป็นกรดอะมิโน ซึ่งเป็นโปรตีนหน่วยเล็กที่สุด จึงทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ แม้แต่คนที่แพ้ถั่วเหลืองผ่านระบบภูมิคุ้มกันก็มีแนวโน้มทานได้ ถึงแม้จะดื่มนมถั่วเหลืองไม่ได้ก็ตาม
เทมเป้มีลักษณะเป็นแผ่น ที่อัดแน่นด้วยถั่วแต่ไม่แข็ง เนื้อสัมผัสนุ่ม คล้ายเต้าหู้** แต่ทำมาจากถั่วเหลืองทั้งเมล็ดนำไปต้มและบ่มหมักกับเชื้อราที่ช่วยย่อยโปรตีนในถั่ว เกิดเป็นเส้นใยสีขาวถักทอหุ้มรอบถั่วแต่ละเม็ดให้เกาะตัวกันจนเป็นก้อนเทมเป้สามารถหั่นเป็นชิ้นต่าง ๆ เพื่อประกอบอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารมังสวิรัติ หรือ ผู้ที่หลีกเลี่ยงอาหารจากเนื้อสัตว์
เทมเป้ เป็นการทานอาหารจากพืชเต็มส่วน (Whole Food & Plant-Based) โดยการทานเทมเป้นั้นถือว่าเป็นการทานถั่วเพื่อให้ได้รับสารอาหารสูงสุด โทษต่ำสุด และได้ประโยชน์ต่อสุขภาพนอกเหนือจากสารอาหารหลักที่ได้ (Functional Food)
ประโยชน์ของเทมเป้
• ย่อยง่าย ร่างกายสามารถนำโปรตีนที่ผ่านการย่อยมาแล้วไปใช้ได้เลย
• โปรตีนสูง คาร์โบไฮเดรตต่ำ และเป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีเส้นใยอาหารสูง ร่างกายค่อย ๆ ดูดซึมไปใช้ได้
• มีทั้งโพรไบโอติกส์ (เชื้อดี) และพรีไบโอติกส์ (อาหารเลี้ยงเชื้อดี) ทานแบบปรุงสุกก็ยังมีผลเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย
• มีเส้นใยอาหารสูง อิ่มท้อง ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย
• มีสารเลซิทิน ช่วยในการสลายไขมัน ป้องกันไขมันไม่ให้จับเส้นเลือด สร้างเซลล์ใหม่ เพื่อทดแทนเซลล์เก่า
• มีวิตามิน B12 จากกระบวนการหมัก ช่วยเรื่องการสร้างเม็ดเลือดแดง และป้องกันโรคโลหิตจาง
• มี Isoflavaones ช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส
• ช่วยลดไขมันในหลอดเลือด ช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดมีสภาพเป็นปกติ
• ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท
• ลดการเกิดภาวะไขมันพอกตับ ลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี
• ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและสร้างเม็ดเลือดให้เป็นปกติ
รสชาติของเทมเป้
โดยทั่วไปจะมีรสจืด ๆ คล้ายเต้าหู้ หรือ ถั่วต้ม ถ้าหากผ่านกระบวนการบ่มด้วยเชื้อ Rhizopus Oligosporus เป็นเวลา 1 - 2 คืน เทมเป้อาจจะมีรสชาติและกลิ่นคล้ายเห็ดเข็มทอง เทมเป้ที่บ่มไม่นานจะมีสีอ่อน มีกลิ่นและรสชาติที่อ่อนคล้ายผลไม้ที่ยังไม่สุกเต็มที่ หากบ่มนานขึ้นจะมีสีเหลืองที่เข้มขึ้น กลิ่นและรสชาติก็จะเข้มขึ้นตามไปด้วย สามารถนำเทมเป้ไปประกอบอาหารได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ทอด ผัด สลัด แกง ของหวาน หรือทานสด ๆ เพื่อให้ได้รับโพรไบโอติกส์สูงสุด
การเก็บรักษาเทมเป้
เทมเป้หลังผลิตใหม่จะสามารถเก็บได้ในตู้เย็นถึง 10 วัน แต่ถ้าเก็บในตู้แช่แข็งสามารถเก็บได้นาน ถึง 10 เดือน
เทมเป้ ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนกำลังมองหาอาหารและวัตถุดิบที่ให้โปรตีนสูง เพื่อทดแทนเนื้อสัตว์ แต่อย่างไรก็ตาม โปรตีนจากถั่วเหลืองอย่าง เทมเป้ ไม่ได้มีกรดอะมิโนครบถ้วน เทียบเท่ากับโปรตีนที่ได้รับจากเนื้อสัตว์ที่ถือว่าเป็น Complete Protein หากต้องการทานอาหารทดแทนเนื้อสัตว์ที่ให้โปรตีนสูง การทานเทมเป้อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงควรทานโปรตีนจากพืชอื่น ๆ ร่วมด้วย ถึงจะทำให้ได้รับโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวัน เช่น ถั่วดำ ถั่วลูกไก่ ควินัว เป็นต้น
ขอบคุณที่มาโดย HappyMate , Legumi Tempeh , Spring Green Evolution
ขอบคุณภาพโดย Dyahahsina จาก Pixabay
อ่านบทความเพิ่มเติม >> คลิกที่นี่
